อะไรทำให้เกิดความวิกลจริตและสามารถรักษาได้?
อ่าน 13,327
คนจะบ้าได้อย่างไร? และถ้าอาการเป็นเหตุให้สั่งทำอันตรายและเสี่ยงความบ้าก็ควรรักษาให้หายหรืออย่างน้อยก็บรรเทาลง เพราะความบ้าอาจนำไปสู่ความตาย
คนงอนในบางกรณีที่เล่นเบา ๆ เพียงพอที่จะทำให้หัวเราะได้มาก แต่สำหรับคนที่ถูกปลุกระดมจริงๆ แบบที่กระตุ้นทุกครั้งที่มีแรงกระตุ้น เขาอาจจะไม่ชอบหรือรู้สึกดีที่ถูกจั๊กจี้ให้ทำเรื่องตลก เพิ่มความบันเทิงให้คนรอบข้าง ยิ่งถ้าเพื่อนดันแกล้ง การข่มขู่คนบ้าที่เสี่ยงอันตราย ความตายอาจเกิดขึ้นได้เพราะความบ้าซึ่งถือเป็นเรื่องตลก
และเราไม่ต้องการให้เหตุการณ์โศกนาฏกรรมเกิดขึ้นกับใครก็ตาม เราจึงขอนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับอาการวิกลจริตเพื่อให้ทุกคนเข้าใจตรงกัน อะไรเป็นสาเหตุของความบ้าและจะรักษาได้ ความบ้าและดูแลตัวเองอย่างไร?
ความบ้าคืออะไร?
ความวิกลจริตในภาษาอังกฤษเรียกว่า Latah ซึ่งเป็นศัพท์ภาษามลายูสำหรับอาการหมดสติเฉียบพลัน ในทางจิตวิทยา การยั่วยุจัดเป็นส่วนหนึ่งของจิตวิทยา (จิตพยาธิวิทยา) หรือกลุ่มอาการแปลกๆ ที่เกิดขึ้นกับร่างกาย มีปัจจัยกระตุ้นที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อม ความเชื่อ วัฒนธรรม และบุคลิกภาพ
ความบ้าคลั่งนี้ถูกค้นพบในช่วงกลางศตวรรษที่ 18 เมื่อผู้อพยพจากต่างประเทศจำนวนมากมายังสหรัฐอเมริกา นำแพทย์พบอาการผิดปกติทางร่างกายของชนชาติต่างๆ อย่างมีนัยสำคัญ เช่น ชาวมาเลเซียส่วนใหญ่ได้รับการเตือน หรือความผิดปกติทางจิตเวชที่พบในชาวเยอรมันและไอริชมากกว่าประเทศอื่น ๆ เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม ความวิกลจริตไม่ใช่ความเจ็บป่วยทางจิตใจหรือร่างกาย เนื่องจากผลการตรวจทางจิตวิทยาพบว่า คนเมามีระดับสติปัญญาที่สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ เรียนและทำงาน เป็นกลุ่มคนที่ชอบเข้าสังคม (Extroversion) ก็เช่นกัน
อาการบ้าเป็นอย่างไร?
เมื่อเริ่มยุยง จิตแพทย์หรือแพทย์สันนิษฐานว่าเป็นสาเหตุของการยุยงโดยสันนิษฐานว่าบุคลิกภาพและปัจจัยแวดล้อม รวมทั้งอิทธิพลของวัฒนธรรมอาจทำให้บุคคลมีพฤติกรรมคลั่งไคล้ได้
อย่างไรก็ตาม จิตแพทย์คนปัจจุบันชี้ว่า ความบ้าสามารถจำแนกได้ว่าเป็นอาการกระตุกหรือโรคทูเร็ตต์ ซึ่งเป็นโรคที่เกิดจากความผิดปกติในสมองที่ควบคุมการเคลื่อนไหว หรือความผิดปกติของสารเคมีในสมอง ทำให้ผู้ป่วยอาการกระตุกหรือติดยาไม่สามารถควบคุมหรือยับยั้งการแสดงออกหรือคำพูดได้เป็นระยะเวลาหนึ่ง
อาการเป็นอย่างไร?
บ้าสามารถแบ่งออกเป็นสองประเภท:
1. รู้สึกเสียวซ่าเมื่อสัมผัสในบริเวณที่บอบบาง เช่น การจั๊กจี้ที่เอว ทำให้เกิดเสียงหัวเราะไม่หยุด เป็นต้น
2. จั๊กจี้ที่เกิดจากเสียงดัง หรือการกระทำที่ส่งผลให้เกิดความรู้สึกช็อคซึ่งทำให้ผู้ที่มีอาการกระตุ้นแสดงพฤติกรรมที่ควบคุมไม่ได้ เช่น หยาบคายบ่อยๆ หรือหมกมุ่นในการแสดงอาการตามคำสั่งที่ได้ยิน เช่น เพื่อนแกล้งตะโกนให้ทิ้งโทรศัพท์ ผู้ป่วยที่ถูกกระตุ้นโดยเสียงดังทำให้พวกเขาตกใจพวกเขาทันทีทิ้งโทรศัพท์
โรคบ้ารักษาได้ไหม?
หากการยุยงไม่รุนแรง ไม่กระทบต่อชีวิตแต่อย่างใด ในกรณีนี้อาจไม่จำเป็นต้องปรึกษาแพทย์เพื่อทำการรักษา โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณรู้ตัว มีสติ และคิดว่าคุณสามารถควบคุมความบ้าของตัวเองได้
แต่สำหรับใครที่มีแรงกระตุ้นที่ค่อนข้างรุนแรง และคิดว่าความบ้าส่งผลต่อวิถีชีวิต ฉันต้องการแก้อาการบ้า สามารถไปพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยว่าอะไรเป็นสาเหตุของความบ้าของเรา แพทย์อาจซักประวัติโดยละเอียดเพื่อหาสาเหตุของอาการที่ผู้ป่วยมี รวมทั้งหากผู้ป่วยมีอาการวิตกกังวล เครียด นอนไม่หลับเนื่องจากอาการวิกลจริต ในกรณีนี้ แพทย์สามารถรักษาด้วยยาจิตเวชได้ บวกกับพฤติกรรมบำบัดที่เน้นการเน้นผู้ป่วย สามารถควบคุมความบ้าของตัวเองได้ในระดับที่ไม่ส่งผลกระทบต่อไลฟ์สไตล์อีกต่อไป
ไอ้เหี้ย ดูแลตัวเองยังไง
สำหรับผู้ที่มีอาการวิกลจริตเล็กน้อยกับชนิดของอาการกระตุ้นที่ถูกกระตุ้นโดยการสัมผัส จิตแพทย์ยังแนะนำให้รักษาตัวเองด้วยการพยายามสัมผัสส่วนของร่างกายที่บอบบางน้อยกว่า (จุดที่ปกติจะไม่ทำให้เกิดการจั๊กจี้ เช่น หลังเท้า เป็นต้น) ทีละน้อย จากนั้นให้เริ่มสัมผัสบริเวณที่น่ากลัวมาก เช่น เอว คอ หู ให้ชิน
อย่างไรก็ตาม คนที่มีอาการชักชวนให้เคลื่อนไหว พูดจาหยาบคาย กลัวง่าย ด่าง่าย ถ้ากังวลมากก็ควรไปพบแพทย์ หรือไม่ร้ายแรง งานวิจัยของ ดร.ทรงกัน สุวรรณเลิศ ให้ข้อมูลว่าการทำสมาธิเป็นการปฏิบัติวิปัสสนา อาจช่วยบรรเทาอาการวิกลจริตได้
นอกจากนี้ ผู้ยุยงต้องหลีกเลี่ยงปัจจัยกระตุ้นที่ทำให้เกิดการยุยง รวมทั้งควรหลีกเลี่ยงการขับรถ (หากถูกกระตุ้นด้วยความตกใจ) หรือในสถานการณ์เสี่ยง เช่น ถือของมีคม อยู่ระดับต่างๆ เช่น หน้าผา หรือบริเวณที่มีความเสี่ยงสูง เช่น อาคารสูง ระเบียงสูง หรือข้างถนน ด้วยรถม้า เพื่อลดความเสี่ยงจากเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด มีอุบัติเหตุบนร่างกายเพราะความบ้าคลั่งในนั้น
อย่างไรก็ตาม คนรอบข้างเราที่รู้ว่าเพื่อน พี่น้อง สมาชิกในครอบครัวของเรานั้นบ้าไปแล้ว ฉันขอแนะนำว่าอย่าล้อเลียนเขาให้คลั่งไคล้เพื่อความสุขของเขาเอง หรือถ้าเล่นด้วยกันก็ต้องระวัง คิดให้รอบคอบว่าจะไม่มีอันตรายจากคนที่จั๊กจี้ในทางใดทางหนึ่ง
เพราะถ้าคุณเล่นอย่างหนัก ความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดการบาดเจ็บทางร่างกาย จิตใจ หรืออันตรายถึงชีวิตต่อบุคคลนั้นมีความเป็นไปได้สูง สิ่งที่ผมเชื่อว่าคงไม่มีใครอยากได้จากเหตุการณ์โศกนาฏกรรมจากความคิดเล่นๆ เล่นๆ ใช่ไหม?
#อาการบาจเกดจากอะไร #รกษาไดไหม
