ไขข้อสงสัย. มันคือ “ตากุ้งยิง” ไม่ใช่เพราะแอบดูใคร!
อ่าน 7,801
นี่เป็นความเชื่อที่เข้าใจผิดมายาวนานเกี่ยวกับการเป็น “กุ้งยิง” “สอดแนมใครบางคน” แต่จริงๆ แล้วนี่ไม่ใช่สาเหตุของโรคจริงๆ
วันนี้ แก๊งบิวตี้ เลยอยากถามคุณเกี่ยวกับ “อาย stye” และวิธีการรักษาและป้องกันไม่ให้กลายเป็น stye ตา
กุ้งยิงเป็นตุ่มเล็กๆ ที่ก่อตัวขึ้นที่ขอบเปลือกตา ซึ่งวัดได้ประมาณ 0.2 ถึง 1 ซม. อยู่บนเปลือกตาทั้งสองข้าง โอกาสที่จะเกิดข้างใดข้างหนึ่งก็ใกล้เคียงกัน อาจเกิดขึ้นที่เปลือกตาบนและล่าง แต่มักพบที่เปลือกตาบน เพราะเปลือกตาบนมีต่อมจำนวนหนึ่งอยู่ที่เปลือกตาล่าง
กุ้งยิงเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย Staphylococcus (Staphylococcus) พบได้บ่อยที่สุด โดยการอักเสบมักเริ่มที่ท่อต่างๆ ที่ออกมาจากสารต่างๆ จากต่อมต่างๆ ในบริเวณเปลือกตาและเกิดการอุดตัน เป็นผลให้แบคทีเรียจำนวนมากเข้าสู่ต่อม เกินระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายไปกำจัดจึงทำให้เกิดการอักเสบของต่อมดังกล่าว ตามมาด้วยการบวมเป็นก้อนมีหนองสะสมจนเกิดเป็นฝี
[ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เป็นตากุ้งยิง]
1. ขยี้ตาบ่อยๆ จนเปลือกตาติดเชื้อแบคทีเรียหรือฝุ่น
2. ไม่สามารถลบเครื่องสำอางรอบดวงตาออกได้หมด
3. ใส่หรือถอดคอนแทคเลนส์ด้วยมือที่สกปรก
4.ใช้ทิชชู่สกปรกเช็ดตา
5. เช็ดตาด้วยเสื้อผ้าที่คุณสวมใส่
6. ล้างหน้าด้วยน้ำที่ปนเปื้อน
7. น้ำสกปรกกระเด็นเข้าตา
8. ฝุ่นในอากาศลอยเข้าตา
[วิธีรักษาตากุ้งยิง]
1. ของใช้ส่วนตัวที่ควรปฏิบัติตามก่อน เช่น งดแต่งตาทุกชนิด งดใส่คอนแทคเลนส์ งดบีบหรือบีบเพื่อเอาหนองออกด้วยตัวเอง เนื่องจากอาจทำให้เกิดการอักเสบมากขึ้น (หากหนองแตกเอง ให้ล้างบริเวณหนองน้ำด้วยน้ำต้มสุก) อย่าขับเองระหว่างที่กุ้งยิง เนื่องจากอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุ ผู้ป่วยโรคกุ้งยิงยังสามารถทำงานตามปกติได้ แต่ถ้าเป็นงานที่ต้องใช้สายตามาก ควรพักสายตาเป็นระยะ
2. เมื่อต้องรับมือกับกุ้งยิงในระยะแรก ควรเช็ดบริเวณรอบดวงตา บริเวณที่ได้รับผลกระทบจะได้รับการทำความสะอาดด้วยน้ำอุ่นวันละสองครั้ง เช้าและเย็น (เช็ดจากมุมตาไปที่มุมตา ขณะที่หลับตา) และรักษาใบหน้าให้สะอาด
3. ประคบตาด้วยน้ำอุ่น ใช้ผ้าสะอาดพันรอบปลายด้ามช้อน จากนั้นชุบน้ำอุ่น กดบริเวณฝีแล้วนวดเบาๆ ทำวันละ 4 ครั้ง ครั้งละประมาณ 20-30 นาที (การประคบร้อนจะช่วยเพิ่มปริมาณเลือดไปเลี้ยงบริเวณนั้น ช่วยต่อสู้กับโรค และช่วยเปิดไขมันที่อุดตันต่อมนำหนองออกมาเองและ อาการจะค่อยๆดีขึ้น)
4. หลังใช้แผ่นปิดตาแต่ละครั้ง ใช้ขี้ผึ้งทาตาหรือยาหยอดตา เช่น ครีมทาตาเทอร์รามัยซิน หรือยาหยอดตาอีริโทรมัยซิน (หากซื้อยาใช้ส่วนตัว ควรปรึกษาเภสัชกรก่อนเสมอ) หากอาการปวดไม่ลดลง มวลไม่หาย หรือมีเลือดออกเป็นแผล คุณควรปรึกษาแพทย์เพื่อหายาปฏิชีวนะที่เหมาะสม หรือตัดหนองออก
5. หากมีอาการปวด ให้ทานยาแก้ปวด เช่น พาราเซตามอล 1-2 เม็ด ทุก 4 ชั่วโมง เมื่อมีอาการ
6. หากมีเปลือกตาบวมแดงหรือต่อมน้ำเหลืองโตที่ใบหน้าและหู ให้รับประทานไดคลอกซาซิลลิน (dicloxacillin) หรือ erythromycin (Erythromycin) วันละ 4 ครั้ง ก่อนอาหาร 1 ชั่วโมง และก่อนนอน 5-7 วัน หรือตามคำแนะนำของแพทย์
7. โดยปกติแม้จะไม่มียา ในบางกรณีอาจหายได้เองภายใน 1-2 สัปดาห์ แต่หากอาการไม่ดีขึ้น กลายเป็นก้อนนูนชัดเจนและรับประทานยาปฏิชีวนะตามคำแนะนำของเภสัชกรและอาการไม่ดีขึ้น ควรไปพบแพทย์โดยด่วนเพื่อ รักษาโดยการผ่าหนอง (แต่ทางที่ดีควรรีบไปพบแพทย์ทันทีที่มีอาการ ไม่ควรรักษาเอง)
8. หากคุณมีอาการดังต่อไปนี้ ผู้ป่วยควรไปพบแพทย์ทันที อาการแย่ลงหรือไม่ดีขึ้นใน 1-2 สัปดาห์ ก้อนขนาดใหญ่มากและเจ็บปวด ตุ่มบนเปลือกตามีเลือดออก ตุ่มพองขึ้นที่เปลือกตา เปลือกตามีเกล็ด รอยโรค ตาแดงหรือตาแดงทั่วไป การมองเห็นผิดปกติ แพ้แดด และโรคกุ้งยิงกลับมาเป็นซ้ำหลังการรักษา
[วิธีป้องกัน]
1 รักษาความสะอาดบริเวณเปลือกตา ใบหน้า ผม โดยเฉพาะผู้หญิงควรสระผมบ่อยๆ
2 ระวังอย่าให้แสบตา
3 หลีกเลี่ยงการสัมผัสบริเวณเปลือกตา หรือใช้มือขยี้ตาบ่อยๆ
4 หลีกเลี่ยงการใช้ผ้าขนหนู เช็ดหน้ากับคนอื่น
5 ล้างเมคอัพออกให้หมด โดยเฉพาะรอบดวงตา
6 หากคุณสงสัยว่าเป็นกุ้งยิง ให้ไปพบแพทย์และอย่าขยี้ตาหรือพยายามจับต้องพวกมัน
#ไขขอสงสย #เปน #ตากงยง #ไมใชเพราะไปแอบดใคร