อาการของโรค “แพ้เหงื่อ” คืออะไร และมีอันตรายแค่ไหน?
อ่าน 2,790
คุณเคยได้ยินใครพูดว่าพวกเขาแพ้ “อาการแพ้เหงื่อ” ของตัวเองเมื่อเราเห็นผื่นแดงที่แขน ขา หรือหลังของพวกเขาหรือไม่? คุณเคยสงสัยหรือไม่ว่าเขามีอาการ “แพ้เหงื่อ” หรือไม่? เพราะเราทุกคนต้องเหงื่อออกมาก ถ้ามีผื่นขึ้นทุกครั้งที่เหงื่อออก จะต้องจริงจัง อาการแพ้เหงื่อคืออะไรกันแน่? อันตรายแค่ไหนถึงจะหายได้? ลองหา
อันที่จริงอาการแพ้เหงื่อ เป็นลมพิษชนิดหนึ่งที่เกิดจากความร้อน โดยความร้อนไปกระตุ้นการทำงานของต่อมเหงื่อ ทำให้เหงื่อออกโดยมีลักษณะเป็นผื่น หรือบางคนอาจมีความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกัน เช่น อิมมูโนโกลบูลิน (Immunoglobulin-G: IgG) ที่ต้านเหงื่อของตัวเอง ส่งผลให้ผิวหนังเกิดผื่นลมพิษ
สาเหตุของการแพ้เหงื่อ
เมื่อเราทำกิจกรรมที่ทำให้ต่อมเหงื่อเร็วขึ้น เช่น ออกกำลังกาย อาบน้ำอุ่น ซาวน่า หรือสวมเสื้อผ้าที่ระบายอากาศได้น้อย ทำให้ต่อมเหงื่อผลิตเหงื่อให้เย็นลง ปรับอุณหภูมิผิวให้เย็นลง บางคนที่มีผิวหนังและเหงื่อออกผิดปกติพัฒนาเป็นลมพิษ
นอกจากนี้ ปัจจัยที่ทำให้เกิดอาการแพ้เหงื่อ ได้แก่ ความเครียดและความวิตกกังวลมากขึ้น
อาการแพ้เหงื่อเป็นอย่างไร?
คนที่แพ้เหงื่อ มีผื่นขึ้นตามผิวหนังที่ชื้น โดยเฉพาะบริเวณหน้าอก ใบหน้า หลังส่วนบน แขน ลักษณะที่ปรากฏของผื่นอาจปรากฏเป็นจุดสีแดง หรือวงกลมนูนหนา อาจมีอาการคันหรือแสบร้อน บริเวณที่เป็นผื่นอาจรู้สึกร้อน และอาจคิดว่าผิวหนังจะแดงและบวมเมื่อเกิดผื่นขึ้นในบริเวณข้างเคียง
แพ้เหงื่อ อันตรายไหม?
อาการแพ้เหงื่อมักจะหายไปเองภายใน 30 นาทีถึงหนึ่งชั่วโมง แต่การแพ้เหงื่อก็เหมือนกับปฏิกิริยาการแพ้อื่นๆ เฉพาะในกรณีที่มีอาการรุนแรงมาก อาจถึงแก่ชีวิตได้ ดังนั้นนอกจากผื่นแดงแล้ว หากมีอาการอื่นๆ เช่น ท้องร่วง เวียนศีรษะ หายใจตื้น หรือหายใจมีเสียงหวีด มีน้ำลายในปากมากกว่าปกติ ความดันโลหิตลดลงและบีบปวดท้อง ควรไปพบแพทย์ทันที
หากคุณรู้ว่าคุณอาจแพ้เหงื่อ คุณควรปรึกษาแพทย์เพื่อหาทางรักษา หายาที่จะใช้ในกรณีที่เกิดอาการแพ้ และหลีกเลี่ยงการใส่เสื้อผ้าที่อับหรือทำกิจกรรมที่ทำให้ต่อมเหงื่อทำงานหนักขึ้น
#อาการ #แพเหงอ #เปนอยางไร #อนตรายมากขนาดไหน