อาการผื่นสีชมพู อันตรายแค่ไหน ?

อ่าน 12,116

ผื่นสีชมพู โรคผิวหนังที่สัมพันธ์กับการติดเชื้อไวรัส พบได้บ่อยในฤดูฝน เป็นโรคไม่ติดต่อที่มีอาการเฉียบพลัน อาจหายได้เอง โดยมักเกิดขึ้นในวัยรุ่นที่มีอายุระหว่าง 10 ถึง 35 ปี มักพบในเด็กเล็กหรือผู้สูงอายุ


ผื่นผิวหนังคืออะไร?

นพ.สมศักดิ์ อังคศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า ผื่นเป็นโรคผิวหนังเฉียบพลัน ไม่มีสาเหตุเฉพาะ เกี่ยวข้องกับการติดเชื้อไวรัส ผื่นจะมีลักษณะเฉพาะ ทรงกลมหรือวงรี จะกระจายไปตามร่องบนพื้นผิว ลักษณะคล้ายต้นสน โรคนี้มักเกิดในคนหนุ่มสาว ส่วนใหญ่อายุระหว่าง 10-35 ปี พบได้ในทุกสายพันธุ์ และพบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชายในอัตรา 2:1 ผื่นมักจะอยู่ประมาณ 6-8 สัปดาห์แล้วหายไปเอง แต่ในผู้ป่วยบางรายอาจอยู่ได้นานถึง 5 เดือนขึ้นไป การวินิจฉัยแยกโรคกับผื่นผิวหนังอักเสบอื่น ๆ รายงานผื่นนี้ในผู้ป่วยที่ตั้งครรภ์ เสี่ยงต่อการแท้งบุตรโดยเฉพาะในช่วง 15 สัปดาห์แรกของการตั้งครรภ์


อาการผื่นผิวหนัง

น.ส.มิ่งขวัญ วิชัยดิษฐ ผู้อำนวยการสถาบันโรคผิวหนัง ภาควิชาอายุรศาสตร์ กล่าวเสริมว่า ผื่นครั้งแรกมักปรากฏบนร่างกายและมีขนาดใหญ่ขึ้น บางครั้งก็สามารถพบได้ที่คอหรือแขนขาตอนบน มักทำให้เกิดผื่นขึ้นอีกภายในไม่กี่ชั่วโมงหรือหลายวัน

ลักษณะของผื่นเป็นสีชมพู ปลาแซลมอน หรือสีน้ำตาล อาจมีขอบที่ยกขึ้นเล็กน้อยประมาณ 2 ถึง 4 ซม. แต่ในบางกรณีอาจเป็น 1 ซม. หรือสูงถึง 10 ซม. มีแป้งพัฟเล็กน้อย ขอบจะขยายใหญ่ขึ้น ผู้ป่วยประมาณ 5% มีอาการที่มีอยู่ก่อนแล้ว เช่น ปวดศีรษะ มีไข้ ปวดข้อ และปวดเมื่อยตามร่างกาย อาจพบตุ่มหนองเล็กๆ ในระยะแรกของโรค มักไม่มีผื่นขึ้นที่ใบหน้า มือ และเท้า อาการคันในผื่นมีอยู่ในประมาณ 25% ของกรณี

วิธีการรักษาผื่นกุหลาบ

ผู้อำนวยการสถาบันโรคผิวหนังให้คำแนะนำอื่นๆ ว่า ผื่นมักจะไม่มีอาการและหายไปเอง โดยไร้ร่องรอย การรักษาส่วนใหญ่เป็นการรักษาตามอาการ การใช้ครีมบำรุงผิวที่เหมาะสมกับสเตียรอยด์หรือยารับประทานจากกลุ่ม antihistamine สามารถช่วยลดอาการคันได้ แต่ควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ ผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรง การใช้ยาสเตียรอยด์ในระยะสั้นและการฉายรังสี UVB (วงแคบหรือบรอดแบนด์) สามารถช่วยควบคุมโรคได้


#อาการโรคผนกหลาบ #เปนแลวอนตรายมากแคไหน

0/5 (0 Reviews)

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น