หลายคนไม่รู้!! ยา “พาราเซตามอล” ถ้าไม่ระวังอาจทำให้ตับถูกทำลายได้โดยไม่รู้ตัว!!

อ่าน 2,859

คุณรู้หรือไม่ว่า.. ยาสามัญประจำบ้าน เช่น “พาราเซตามอล” หากรับประทานอย่างไม่ถูกต้อง อาจทำให้ตับเสียหายได้ ดังนั้นวันนี้ แก๊งบิวตี้ จึงมีข้อมูลดีๆมาบอกทุกคนเกี่ยวกับความรู้เรื่องพาราเซตามอลนี้ และกินอย่างไรให้ถูกวิธี


พาราเซตามอล นี่เป็นยาสามัญประจำบ้านที่หลายคนรู้จักกันดี แทบจะเรียกได้ว่าไม่มีอะไรนอกจากยาเม็ดที่กินเข้าไปแบบนี้ แต่ไม่รู้ว่าการกินโดยไม่จำเป็นหรือการกินมากเกินไปอาจเป็นอันตรายต่อตับของคุณได้ วิธีการที่ถูกต้องจะเป็นอย่างไร? มาค้นหาคำตอบไปด้วยกัน…

เพื่อให้แน่ใจ ดูที่ขนาดยา (1 เม็ด = 500 มก.)

ควรให้น้ำหนักตัวคูณด้วย 10 หรือ 15 เพื่อให้ได้ขนาดยาที่เหมาะสมกับเรา แต่ไม่ควรเกิน 1,000 มก. ต่อโดส เช่น น้ำหนักตัว 50 กก. ปริมาณที่เหมาะสมคือ 500 หรือ 750 มก. เทียบเท่า 1 เม็ดหรือ 1 เม็ดครึ่ง


ปริมาณสูงสุดต่อวันสำหรับผู้ใหญ่

น้ำหนักตัวมาตรฐานทั่วไป ไม่เกิน 4,000 มิลลิกรัม รวมทั้งยาที่มีพาราเซตามอล เช่น ยาคลายกล้ามเนื้อ ยาเย็น เป็นต้น

เพื่อลูกน้อย ไม่ควรเกิน 3000 ถึง 3250 มิลลิกรัม (ซึ่งเป็นระดับปลอดภัยสูงสุด)

สำหรับผู้ที่ต้องทานต่อเนื่องเป็นเวลานาน ควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ ไม่เกิน 2500 – 2600 มก.

โรคตับหรือดื่มสุราเป็นประจำ ไม่ควรเกิน 2,000 มิลลิกรัม

สำหรับผู้ป่วยที่ทานวาร์ฟาริน (วาร์ฟาริน) เป็นยาทำให้เลือดบางลง ที่แพทย์ใช้รักษาและป้องกันการเกิดลิ่มเลือดอุดตันที่เกิดจากการทำงานของเกล็ดเลือดผิดปกติ (Vascular Thrombosis) ไม่ควรรับประทานเกินครั้งละ 1,300-1500 มก.

ปริมาณสูงสุดต่อวันสำหรับเด็กอายุ 0-12 ปี


ไม่เกิน 75 มก./กก. ซึ่งหมายถึงการคูณน้ำหนักของเด็กด้วย 10 หรือ 15 เพื่อให้ได้ค่ามิลลิกรัมที่เหมาะสมที่สุดสำหรับหนึ่งครั้ง ไม่เกิน 5 ครั้งต่อวัน อ่านฉลากเสมอเพื่อให้เข้าใจว่ากาแฟ 1 ช้อนโต๊ะหรือยา 5 ซีซีที่คุณให้ลูกของคุณมี ยากี่มิลลิกรัม

ยาพาราเซตามอลเกินขนาด คุณอาจไม่เห็นอาการในไม่ช้านี้ จะเห็นได้ก็ต่อเมื่อระยะทางเป็นอันตราย ตับอักเสบ ตับแข็ง และเป็นสาเหตุของมะเร็งตับแล้ว ดังนั้นควรใช้ยาเมื่อจำเป็น โปรดใช้ความระมัดระวังในการอ่านฉลากข้อมูลผลิตภัณฑ์อย่างระมัดระวังตลอดเวลา

#หลายคนไมร #ยา #พาราเซตามอล #กนไมระวง #ทำตบพงไมรตว

0/5 (0 Reviews)

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น