สัญญาณเตือน มะเร็งตับเป็นโรคร้ายแรงที่ไม่ควรละเลย

อ่าน 10,319

มะเร็งตับเป็นโรคร้ายแรงที่ไม่ควรละเลย อย่าปล่อยให้มะเร็งร้ายทำลายสุขภาพของคุณก่อนที่จะสายเกินไป การตรวจหาสัญญาณเริ่มต้นของมะเร็งตับ หากคุณมีอาการดังต่อไปนี้มากกว่าหนึ่งอาการ ให้ไปพบแพทย์ทันที!

มะเร็งตับเป็นภาวะสุขภาพที่ร้ายแรง นอกจากนี้ยังเป็นหนึ่งในมะเร็งที่พบบ่อยที่สุด ชายและหญิง มะเร็งชนิดนี้แพร่กระจายได้ค่อนข้างเร็วและมีโอกาสหายขาดได้น้อยมาก เมื่อผู้ป่วยรู้ตัวว่าเขาเป็นมะเร็งตับ เขาก็เกือบจะอยู่ในขั้นร้ายแรงแล้ว แต่ไม่ใช่ว่าโรคนี้ไม่สามารถรับมือได้ เพราะถ้าเรารู้สัญญาณเตือนหรืออาการเริ่มแรกของมะเร็งตับ ซึ่งจะช่วยให้เราได้รับการรักษาอย่างทันท่วงทีและเพิ่มอัตราการรอดชีวิต 10 สัญญาณเตือนมะเร็งตับที่สังเกตได้ชัดเจน และไม่ควรละเลย เพราะสุขภาพของเราสำคัญกว่าที่คุณคิด


1. คลื่นไส้บ่อยๆ

อาการคลื่นไส้บ่อยครั้งและผิดปกติถือเป็นสัญญาณแรก มะเร็งตับ เพราะเมื่อระบบตับเริ่มเสื่อม ร่างกายจะไม่สามารถกำจัดสารพิษในร่างกายได้ดีเท่าที่ควร ส่งผลให้เกิดอาการคลื่นไส้และอาเจียน นอกจากนี้ เนื้องอกในตับยังผลิตฮอร์โมนบางชนิดที่ทำให้เกิดภาวะแคลเซียมในเลือดสูง นอกจากนี้ยังทำให้เกิดอาการคลื่นไส้รุนแรงขึ้น

2. ปวดท้องด้านขวาผิดปกติ

มะเร็งตับระยะเริ่มต้น อาจทำให้ปวดท้องรุนแรงบริเวณซีกขวาได้ อาการเหล่านี้อาจเกิดจากเนื้องอกร้ายที่เติบโตในช่องท้องทำให้ความดันในช่องท้องเพิ่มขึ้น มันทำให้เกิดอาการปวดท้องและปวดท้องตลอดจนอาการสะอึกเรื้อรัง อาจสังเกตได้ว่าตับขยายใหญ่ขึ้น ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการปวดที่ไหล่ขวาได้ เนื่องจากตับนั่งคร่อมเส้นประสาทกะบังลมซึ่งเชื่อมโยงกับระบบประสาทรอบไหล่ด้วย

3. อิ่มเร็ว เบื่ออาหาร

มะเร็งตับจะทำให้คุณรู้สึกอิ่มเร็วกว่าปกติ เพราะเมื่อตับถูกเซลล์มะเร็งโจมตี ประสิทธิภาพของตับจะลดลง ส่งผลให้ของเหลวไหลเข้าสู่ช่องท้องทำให้คุณทานอาหารได้น้อยกว่าที่ควร นอกจากนี้ เซลล์มะเร็งยังทำให้ร่างกายเผาผลาญน้อยลง แล้วเมื่อร่างกายไม่ได้รับการเผาผลาญตามปกติ ความอยากอาหารก็จะลดลงตามไปด้วย


4. การลดน้ำหนัก

เมื่อเซลล์มะเร็งเริ่มโจมตีร่างกาย ความอยากอาหารจะลดลง สิ่งที่ตามมาคือการลดน้ำหนักอย่างรวดเร็ว เพราะร่างกายไม่ได้รับอาหารเพียงพอ อย่างไรก็ตาม การลดน้ำหนักไม่ใช่สัญญาณเดียวของโรคมะเร็ง แต่ก็อาจเป็นสัญญาณของโรคอื่นๆ ได้เช่นกัน ไม่เกี่ยวข้องกับตับ ดังนั้นควรสังเกตอาการอื่นๆ และควรปรึกษาแพทย์เพื่อการวินิจฉัยที่ชัดเจน

5. อาการคัน

อาการคันเป็นอาการทั่วไปของมะเร็งหลายชนิด แม้ว่าจะไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดก็ตาม แต่ผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์ว่าเกิดจากสารที่แพร่กระจายจากเนื้องอกร้าย แต่ในกรณีของมะเร็งตับ มีการสันนิษฐานกันว่าอาการคันเกิดจากน้ำดีในร่างกาย อาการคันมะเร็งตับจะเริ่มบรรเทาลงด้วยการรักษาที่เหมาะสม

6. อ่อนเพลีย

ความเหนื่อยล้าเป็นสัญญาณเริ่มต้นของโรคมะเร็งหลายชนิด หนึ่งในนั้นคือมะเร็งตับ เนื่องจากเมื่อเซลล์มะเร็งเจริญเติบโตในร่างกาย เซลล์เหล่านี้จะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการเผาผลาญของร่างกาย นอกจากนี้ความเจ็บปวดและความรู้สึกไม่สบายเกิดขึ้นพร้อมกัน นอกจากนี้ยังเป็นสาเหตุที่ทำให้คุณรู้สึกเหนื่อย ดังนั้นหากคุณเกิดมีอาการเมื่อยล้าระหว่างวัน หรือไม่มีแรงแม้แต่จะทำกิจกรรมต่างๆ ในแต่ละวัน นี่เป็นสัญญาณบอกให้รู้ว่าควรไปพบแพทย์ที่นี่โดยด่วน

7. ตาเหลือง ตัวเหลือง

เรารู้แล้วว่าดีซ่านเป็นอาการของโรคดีซ่าน ซึ่งเป็นอีกอาการหนึ่งที่อาจเกิดขึ้นกับตับได้ แต่รู้หรือไม่ โรคดีซ่าน อาจเป็นสัญญาณของมะเร็งตับได้เช่นกัน? เนื่องจากตับของเราอ่อนแอลงด้วยโรคมะเร็ง ตับจะไม่สามารถกำจัดบิลิรูบินที่ถูกกรองออกจากกระแสเลือดได้ดีเท่าที่ควร ส่งผลให้สารดังกล่าวถูกทิ้งไว้เบื้องหลังและแพร่กระจายไปยังเนื้อเยื่อต่างๆ จนทำให้เกิดอาการตัวเหลือง

8. ตับโต

ตับโตและบวมเป็นสัญญาณบ่งชี้เบื้องต้นเกี่ยวกับความผิดปกติของตับที่อาจเกิดขึ้นได้ เช่น โรคตับอักเสบ โรคเลือด หรือมะเร็งตับ แต่ก็สามารถสันนิษฐานได้ว่าเป็นมะเร็งตับหรือไม่ ต้องได้รับการวินิจฉัยว่ามีอาการอื่นๆ เช่น เนื้องอกหรืออาการเฉียบพลันอื่นๆ


9. หยด

น้ำในช่องท้องเป็นภาวะที่เกิดจากความผิดปกติในหลอดเลือดและต่อมน้ำเหลืองส่งผลให้มีของเหลวในช่องท้องเป็นจำนวนมาก ทำให้เกิดอาการบวมน้ำซึ่งสำหรับมะเร็งตับ น้ำในช่องท้องเป็นอาการที่อาจเกิดขึ้นได้ เนื่องจากเซลล์มะเร็งที่แพร่กระจายไปจะเพิ่มความดันในหลอดเลือด หรือทำให้ระบบน้ำเหลืองทำงานผิดปกติจนมีของเหลวในช่องท้องมาก อาการนี้ควรรักษาโดยแพทย์เท่านั้น แพทย์จะต้องเจาะช่องท้องเพื่อระบายของเหลว

10. มีโรคตับอักเสบบีหรือซี

ไวรัสตับอักเสบบีและไวรัสตับอักเสบซี ล้วนทำให้เกิดมะเร็งตับได้ ดังนั้นผู้ที่เป็นโรคตับอักเสบทั้งสองประเภทหรือผู้ที่เป็นพาหะ ความเสี่ยงของมะเร็งตับมีมากกว่าคนปกติถึง 200 เท่า ดังนั้นหากคุณมีประวัติเป็นโรคตับอักเสบบีหรือซี คุณควรตรวจเลือดอย่างน้อยปีละครั้ง และรักษาสุขภาพให้ดีอยู่เสมอ

แม้ว่ามะเร็งจะเป็นโรคร้ายแรง แต่ถ้าเรายังคงดูแลสุขภาพของตัวเองต่อไป การเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่เสี่ยงต่อโรคภัยไข้เจ็บจะช่วยป้องกันเราจากโรคมะเร็งได้ ไม่มีใครป้องกันเราจากโรคได้ ถ้าเราไม่ทำเอง

#สญญาณเตอนเบองตน #มะเรงตบ #โรครายทไมควรมองขาม

0/5 (0 Reviews)

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น