วิธีทำให้วันที่นอนไม่หลับสดใสขึ้น แล้วกลับบ้านนอนหลับฝันดี

อ่าน 14,855

ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร ต้องมีวันที่นอนน้อย หรือต้องนอนเพราะทำงานดึกไปปาร์ตี้บ้าๆ หรือหมาแมวบ้านควน ป่วยจนนอนไม่หลับ ทั้งที่หลายคนเลือกนอนชดเชยวันรุ่งขึ้น แต่เรารู้ว่ายังมีอีกมาก คนที่ต้องขยี้ตาเพราะง่วงไปทำงาน ใช้ชีวิตปกติ อยากนอนเท่าไหร่ มาดู 7 วิธีเอาตัวรอดในวันที่ง่วงนอน งั้นกลับบ้านไปนอนซะ!

7 วิธีเอาตัวรอดในวันที่นอนไม่หลับ


กาแฟช่วยได้

คนที่ชอบดื่มกาแฟคงจะสบายแต่ถ้าใครไม่ชอบกาแฟ แต่อยากอยู่จนเย็นต้องพึ่งกาแฟแก้วเดียว ไม่ว่าจะดื่มแล้วหรือดื่มเฉยๆ เราขอแนะนำให้คุณดื่มเพียง 1-2 แก้วในตอนเช้า และก่อน 14.00 น. หากดื่มมากเกินไปหรือดื่มในช่วงบ่ายแก่ๆ อาจทำให้นอนไม่หลับในตอนกลางคืน ปรากฏว่าแม้จะง่วงตลอดเวลา อยากนอนแต่นอนไม่หลับแย่กว่าเดิม

หาที่งีบสัก 15 นาที

วิธีที่ดีที่สุดในการรักษาอาการง่วงนอนคือการนอนหลับ แต่เรารู้นะว่าถ้านอนได้ก็คงจะนอนอยู่แล้ว (ฮา) ดังนั้นแม้ว่าเราจะไม่มีเวลานอนทั้งวัน แค่ 20 นาทีในช่วงพักกลางวันก็เพียงพอแล้วที่เราจะมีชีวิตรอดโดยไม่หลับใหล


การนอนหลับตอนกลางวันไม่ใช่ยากระตุ้นสมอง แต่เป็นการพักสมองที่ดีที่สุด เรียกได้ว่าชาร์จแบตเตอรีของสมองและร่างกาย ดีกว่าการนอนนาน ๆ โดยใช้เวลาเพียง 20 นาทีในช่วงพักกลางวัน อาจจะนอนในรถ นอนบนโต๊ะก็ได้ จากนั้นตั้งนาฬิกาปลุกไว้นานถึง 20 นาที เพื่อไม่ให้คุณหลับ

ถ้าใครนอนดึก เพราะสมองยังกังวลอยู่ก็ไม่เป็นไร เพียงแค่ปิดตาของคุณ ต่อไป ให้นึกถึงสิ่งอื่นที่ใส่สบายหรือจินตนาการว่าคุณกำลังอาบแดดอยู่ ในป่าเขียวขจีจะช่วยให้สมองได้พักผ่อน และเมื่อลืมตาขึ้นจะรู้สึกสดใสกว่าเดิมแน่นอน

เต็มแสง

แสงจ้ากระตุ้นสมองให้ตื่นตัวมากกว่าความมืด เพราะเมื่ออยู่ในความมืดร่างกายของเราจะชินกับมัน ต้องหลับตาลง ดังนั้นถ้าใครต้องทำงานในห้องมืดๆ มืดๆ ก็จะหลับได้ง่าย ดังนั้นควรออกไปเดินเล่นกลางแดดตอนเช้าก่อนทำงาน เพื่อให้ร่างกายและสมองได้รับการกระตุ้น โดยจะต้องอยู่กลางแดดไม่เกิน 10 โมง เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดความเสียหายต่อผิว แต่ถ้าใครหาแสงธรรมชาติไม่เจอก็เปิดไฟในห้อง หรือหาโคมไฟตั้งโต๊ะมาเปิดเพิ่มก็ช่วยได้

ออกกำลังกาย

หลายคนอาจคิดว่าการออกกำลังกายจะทำให้ร่างกายทำงานหนักขึ้น และจะวิตกกังวลกว่าเดิม แต่จริงๆ แล้วการออกกำลังกายช่วยให้ร่างกายหลั่งสารโดปามีน สารเคมีในสมองที่กระตุ้นร่างกายให้มีความสุข ไม่รู้สึกเหนื่อยและมีแรง ควรเลือกออกกำลังกายเบาๆ ประมาณ 20 นาที เช่น เดินเร็ว วิ่งจ๊อกกิ้งเบาๆ แอโรบิกเบาๆ จะช่วยให้ร่างกายปลอดโปร่งพร้อมลุยมากกว่าอยากนอน

กินโปรตีนแก้ง่วง

คุณเชื่อไหมว่าไม่สำคัญว่าเราง่วงแค่ไหน? แต่ร่างกายบอกให้เราหิวอยู่ดี และหลายคนมักจะเลือกอาหารง่ายๆ เช่น ขนมปังเป็นอาหารว่าง เพราะไม่อยากกินและอยากนอนมากขึ้น แต่กินขนมปังในวันที่ง่วงๆ ยิ่งง่วงและหนักกว่าเดิม เพราะฉะนั้น ถ้าไม่อยากง่วง ต้องหลีกเลี่ยงขนมหรือแป้ง และเลือกใช้เนื้อสัตว์ที่มีโปรตีนสูงแทน จะช่วยให้ร่างกายตื่นตัวและที่สำคัญอย่ากินมากเกินไปเพราะกินเยอะ ซึ่งจะทำให้ร่างกายใช้พลังงานในการย่อยมากขึ้น เหมือนคำว่าท้องตึง หนังตาตก

กินเผ็ดเปรี้ยว


กินของที่มีรสเผ็ด เปรี้ยว มีกลิ่นแรง หรือรู้สึกเย็น จะช่วยให้ร่างกายตื่นตัวได้สักพัก เช่น ลูกอมรสเปรี้ยว มะขาม ส้ม หรือชารสมิ้นต์ หรือใครหน้าด้าน ก็เลือกกินเผ็ด ส้มตำเป็นครก รับรองตื่นมาทั้งวัน

พยายามทำให้ทุกอย่างเป็นปกติ

เมื่อคุณเลิกงานและกลับบ้าน หลายคนเลือกที่จะผล็อยหลับไปบนเตียงทันที แต่การทำเช่นนั้นจะยิ่งแย่ลงไปอีก สิ่งที่ต้องทำคืออย่ากลับบ้านและอย่านอนเลย คุณควรกินและทำทุกอย่างให้เป็นปกติแม้ว่าคุณจะรู้สึกง่วงนอนมากก็ตาม

อย่าเข้านอนทันที อย่าเข้านอนก่อน 20.00 น. แต่ให้เข้านอนเร็วขึ้นระหว่าง 21.00 น. – 22.00 น. และนอน 8 ชั่วโมงเพื่อช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวได้ดีขึ้น วันรุ่งขึ้นตื่นมาจะได้พักผ่อนไม่เหนื่อย เพราะถ้าเรานอนทันที เราจะตื่นกลางดึกแล้วนอนไม่หลับ สุดท้ายก็กลับมาที่เดิมคือนอนไม่พอตื่นมาอีกทีไม่สดใส

#วธสรางความสดใสในวนทนอนนอย #แลวคอยกลบบานไปนอนใหเตมอม

0/5 (0 Reviews)

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น