อาการปวดหัวประเภทต่างๆ สามารถบอกคุณได้เกี่ยวกับโรคนี้
อ่าน 13,499
อาการปวดศีรษะที่เรามักพบมี 2 ประเภท ได้แก่ อาการปวดศีรษะที่มีความผิดปกติในสมอง เช่น โรคหลอดเลือดสมองโป่งพอง เส้นเลือดอุดตันในสมองหรือมีเนื้องอกในสมอง และอีกอาการปวดหัวที่มักพบในคน โดยเฉพาะคนหนุ่มสาวในวัยเรียนและวัยทำงาน มักมีอาการปวดศีรษะจากความเครียดและไมเกรน
อาการปวดหัวทั่วไป
ปวดในสมอง
– มักพบในผู้ที่มีอายุ 45 ปีขึ้นไป หรืออาจเกิดขึ้นกับวัยอื่นๆ ได้เช่นกัน
– ปวดมากจนไม่เคยรู้สึกปวดแบบนี้มาก่อน
– มักพบในคนที่ไม่เคยปวดหัวมาก่อนปวดกะทันหัน
-ปวดจนตื่นนอนไม่หลับ
– เจ็บเวลาไอ จาม เกร็ง
– อาจปวดเมื่อนั่งแต่ไม่เมื่อนอนราบ หรือปวดเมื่อนอนราบ แต่ไม่ปวดเมื่อนั่ง
– อาจมีอาการปวดหัวจนอาเจียนหลังตื่นนอน
– อาจมีอาการปวดหัวบ่อย ๆ ซึ่งพอทนได้ แต่ระยะหลังปวดจะต่างออกไป
– ยารักษาไม่หายขาด ต้องพบนักประสาทวิทยา
ปวดหัวเครียด
– มักพบในวัยเรียนส่วนใหญ่
– ปวดหัวทั้งสองข้าง รู้สึกตึงและตึงในกล้ามเนื้อลามไปถึงหน้าผาก ขมับ และลูกตา
– เกิดจากการทำงานหนักทั้งสองงานต้องใช้ความพยายามทางกายภาพ ทำงานหน้าคอมทั้งวัน งานที่ต้องใช้สายตาเยอะ
– การขับรถทางไกล การขับรถทางไกล อาจทำให้ร่างกายเครียดจนปวดหัวได้
– เกิดจากความเครียดทางจิตใจมีผลกระทบทางจิตใจอย่างรุนแรง
– พักผ่อน กินยา นอน ตื่น ใช้ชีวิตได้ปกติ
ปวดหัวไมเกรน
– เกิดขึ้นบ่อยที่สุดในผู้หญิงอายุต่ำกว่า 40 ปี
– มีอาการปวดหัวข้างเดียว ซีกซ้ายและซีกขวาใช้แทนกันได้ แทงปวด
– อาจปวดได้ประมาณ 4 ชั่วโมง และต่อเนื่องได้นานถึง 3 วันโดยไม่ใช้ยา
– ต้องใช้ยาแก้ปวดเฉพาะสำหรับไมเกรน
– ผู้หญิงอาจมีอาการไมเกรนก่อน 3 วันแรกของการมีประจำเดือนหรือมีประจำเดือนอันเนื่องมาจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนเอสโตรเจนในร่างกาย ซึ่งอาจทำให้ปวดหัวมากกว่าปกติ แต่นี่เป็นเรื่องปกติไม่ต้องกังวลไป
อาหารที่ทำให้เกิดอาการไมเกรนคืออาหารกลุ่มที่มีชีส อาหารหมักดอง มีคาเฟอีนสูง แอลกอฮอล์ และช็อกโกแลต
ปวดหัวส่วนไหน บอกโรคอะไรได้บ้าง?
– ปวดหัวข้างเดียวหรือไมเกรน อาจเปลี่ยนซีกซ้ายและซีกขวาให้เป็นปกติ ไม่ต้องกังวล เพราะหมายความว่าไม่มีความเสียหายที่เห็นได้ชัดเมื่อใดก็ได้ แต่ถ้าปวดข้างเดียวเสมอ เช่น ข้างขวาในแต่ละครั้งและมีอาการรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ อาจมีอาการผิดปกติในซีกโลกนี้ ข้าวเม็ดเดียวมักเป็นไมเกรน แต่เปลี่ยนข้างได้
– ปวดขมับ หน้าผาก ตา กระบอกตา เป็นอาการปวดศีรษะที่เกิดจากความเครียด
– ปวดบริเวณหาง นี่เป็นอาการปวดศีรษะเนื่องจากความดันโลหิตสูง
– อาการปวดในโพรงจมูกและแก้มอาจเกิดจากไซนัสอักเสบ
ดูแลตัวเองก่อนเวลาปวดหัว
ปวดหัวไม่เกิน 2 ครั้ง/เดือน
หากคุณไม่มีอาการปวดหัวเป็นประจำ ปวดหัวไม่เกิน 2 ครั้งต่อเดือน เช่น เกิดจากการอดนอน อดนอน เกิดจากความเครียด ปวดเนื่องจากไข้ ไม่สบายตัว ไม่สบาย สามารถนอนพักผ่อนได้เมื่อตื่นนอน อาการจะดีขึ้น ถ้าไม่ดีขึ้น ให้กินยาแก้ปวดพาราเซตามอล หรือถ้าทานพาราเซตามอลแล้วไม่หาย อาจเกิดจากไมเกรนที่ต้องใช้ยาเฉพาะเพื่อให้เข้ากับสภาพ
ปวดหัวมากกว่า 2-4 ครั้ง/เดือน
อาการปวดหัวบ่อยๆ อาจเกิดจากอาการปวดหัว จนเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับชีวิตประจำวันโดยไม่มีสิ่งผิดปกติในสมองที่สามารถรักษาได้ด้วยยา ได้แก่ ยาแก้ปวดเฉพาะที่ และยาป้องกัน หากปวดบ่อยมากจนต้องกินมากกว่า 10 เม็ดต่อเดือน ยาอาจมีผลข้างเคียงต่อตับและไต คุณควรปรึกษานักประสาทวิทยาเพื่อรับการรักษาที่เหมาะสม
การปรับวิถีชีวิตลดอาการปวดหัว
– พักผ่อนไม่เพียงพอ นอนมากเกินไป นอนน้อยเกินไปอาจทำให้ปวดหัวได้ ต้องนอนหลับให้เพียงพอ 6-8 ชั่วโมงต่อวัน และต้องนอนก่อน 23.00 น.
– การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ มลภาวะ
– ใช้ฮอร์โมนรักษาหรือกินยาคุมกำเนิดที่มีผลต่ออาการปวดหัว ปรึกษาแพทย์เสมอ
– ทำงานหนักเกินไป ใช้สายตาอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ทั้งวัน อาจทำให้ร่างกายเมื่อยล้าและทำให้ปวดหัว ทุก ๆ ชั่วโมง ลุกขึ้นเดิน ยืดเส้นยืดสาย พักสายตา มองพื้นที่สีเขียว หรือหลับตาเพื่อพักผ่อน จะช่วยบรรเทาอาการ
– คุณต้องออกกำลังกายอย่างน้อย 150 นาทีต่อสัปดาห์
– ดื่มน้ำบ่อยๆ
– ผู้ที่มีอาการไมเกรน หลีกเลี่ยงการอยู่ใกล้แสงจ้า เสียงดัง
– หลีกเลี่ยงอาหารดอง อาหารที่ทำจากชีส คาเฟอีน และแอลกอฮอล์
#อาการปวดหวแบบตางๆ #บอกโรคได