12 วิธีแก้คอดำ สาเหตุของความหมองคล้ำ จากจุดหิด โดนแดด หรือแพ้ปลอกคอ มีทางแก้แน่นอน!!!!

อ่าน 28,099

ปัญหาคอดำเกิดได้จากหลายสาเหตุ แต่สาเหตุหลักมาจากความสะอาด แต่ถ้าใครมีน้ำหนักเกินเมื่อเทียบกับปกติก็สามารถเกิดขึ้นได้ วันนี้ gangbeauty เลยมาแนะนำวิธีช่วยให้คุณมั่นใจและกล้าเผยคอ!!


1. ลดน้ำหนักสำหรับผู้ที่มีน้ำหนักเกิน. ซึ่งจะส่งผลให้บริเวณคอมีเนื้อมากกว่าปกติ จึงทำให้เกิดการเสียดสีได้ง่ายขึ้น และอาจทำให้คอมืดลงได้ ดังนั้นคุณต้องแก้ไขปัญหานี้ที่รากด้วยการออกกำลังกายลดน้ำหนัก เพราะเมื่อน้ำหนักลดลงก็สามารถลดแรงเสียดทานที่เกิดขึ้นได้ รอยคล้ำรอบคอค่อยๆ จางลง เป็นวิธีที่จะได้ผลลัพธ์ที่แน่นอนที่สุด เพราะถ้าน้ำหนักลดลง ทุกอย่างจะเปลี่ยนเป็นสีขาว คอไม่ดำคล้ำ นอกจากนี้สุขภาพผิวก็ดีขึ้นด้วย

2. อาบน้ำเป็นประจำ โดยอาบน้ำอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง และอาบน้ำให้สะอาดในตอนเช้าและก่อนนอน

3. ขัดผิวเป็นประจำ 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ การขัดผิวคอสามารถช่วยทำให้จุดหมองคล้ำจางลง เพราะจะช่วยขจัดเซลล์ผิวเก่าที่เสื่อมสภาพและค่อยๆ เผยเซลล์ผิวใหม่โดยไม่หมองคล้ำ โดยให้คุณใช้นิ้วถูบริเวณคอหรือใช้ใยบวบถูสบู่เบาๆ ทุกครั้งที่อาบน้ำ

4. การผลัดเซลล์ผิวอย่างเป็นธรรมชาติ นอกจากการขัดผิวแล้ว ควรทำตอนอาบน้ำ หากคุณมีเวลาว่าง คุณสามารถเลือกใช้เกลือขัดผิวหรือเจลขจัดคราบตะกรันที่ช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว ถูเบาๆ (อย่าถูแรงเกินไปเพราะจะทำให้ผิวของคุณคล้ำขึ้น) หรือคุณอาจลองใช้สครับธรรมชาติ เป็นต้น

– มะขาม ใช้มะขามเปียกที่มีสาร AHA จากธรรมชาติ ซึ่งจะช่วยให้ผิวกระจ่างใสขึ้น โดยนำเนื้อมะขามมาขัดผิวและนวดคอสัปดาห์ละครั้ง


– มะขามเปียก + โยเกิร์ต + น้ำผึ้ง + เกลือ ใช้มะขามเปียกแช่โยเกิร์ตให้มะขามเปียกแล้วบีบเนื้อมะขามออก ผสมน้ำผึ้ง ใส่เกลือเล็กน้อยลงไป แล้วใช้ถูผิว

– มะนาว ใช้ผิวเลมอนคั้นเอาแต่น้ำแล้วถูเบาๆ

– มะเขือเทศ+น้ำตาล ใช้มะเขือเทศฝานเป็นแว่น แช่น้ำตาล แล้วถูผิวเป็นวงกลม โดยทำไม่เกินสัปดาห์ละสองครั้ง ถ้าว่างก็ลองทำดู

– ผสมน้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ น้ำมันมะกอก 1/2 ช้อนโต๊ะ และไข่ขาว 1 ฟอง และใช้พอกบริเวณลำคอ ทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น โดยทำประมาณ 3-4 ครั้งต่อสัปดาห์

5. เบบี้ออยล์ (Johnson’s Baby Oil) เทเบบี้ออยล์ทีละหยดลงในสำลีก้อน แล้วเช็ดถูหลังอาบน้ำทุกครั้ง หรือคุณสามารถใช้น้ำมันมะกอกหรือโทนเนอร์แทนก็ได้

6. น้ำมันมะกอก คุณเพียงแค่หยดน้ำมันมะกอกหนึ่งหยดแล้วทาให้ทั่วคอแล้วทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที จากนั้นใช้ผ้าหรือผ้าฝ้ายเช็ดเบาๆ ซึ่งจะช่วยลดจุดด่างดำบนคอของคุณ อีกทั้งยังช่วยบำรุงผิวให้รู้สึกนุ่มชุ่มชื่น (ถ้าเช็ดแล้วถูสำลีจะไม่เกิดรอยดำ อาจเป็นเพราะน้ำตาลในเลือดสูง (โรคผิวหนังช้าง) แต่ถ้าเช็ดแล้วสำลีจะมีรอยดำ แสดงว่าคอดำเกิดจากหิด หรือจะเป็นทั้งสองอย่างก็ได้)

7. Toner วิธีนี้ช่วยให้คุณใช้โทนเนอร์ในการล้างหน้าหรือแต่งหน้า ทาบริเวณลำคอเป็นประจำ แล้วใช้สำลีค่อยๆ เช็ดและถูต่อไป วิตามินในโทนเนอร์จะช่วยปรับสีผิวคล้ำให้ขาวขึ้น และช่วยให้จุดด่างดำจางลง

8. ทาครีมบำรุงหรือครีมบำรุงรักษาคอดำเป็นประจำ ใช้ครีมบำรุงผิวทาให้ทั่วบริเวณลำคอเสมอเพื่อลดการเสียดสีอันเป็นสาเหตุของคอดำ

9.หลีกเลี่ยงแสงแดด หากต้องเผชิญแสงแดดเป็นประจำ นอกจากการทาครีมแล้ว ยังต้องทาครีมกันแดดเพื่อปกป้องผิวอีกด้วย


10. งดใส่สร้อยคอ ถ้าไม่จำเป็นอย่าใส่ เพราะมันยังมีส่วนทำให้คอดำลง

11. โรคผิวหนังช้าง (Acanthosis Nigricans) สำหรับคนคอดำ โดยไม่ได้เกิดจากตกสะเก็ด ถูแค่ไหนก็ขัดไม่ได้ คุณอาจมีผิวหนังอักเสบจากช้าง เป็นโรคผิวหนังที่มีลักษณะผิวคล้ำ หนา และนุ่ม มักเกิดที่คอ รักแร้ และขาหนีบ และมักเกิดในผู้ที่มีอินซูลินในร่างกายมาก หรือในผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 ที่มีอินซูลินมากเกินไปในการกระตุ้นการเจริญเติบโตของเซลล์ผิว หากคุณเป็นโรคนี้ คุณควรปรับอาหารโดยลดน้ำตาลและแป้ง และลดน้ำหนักแล้วภาวะดื้ออินซูลินหายไป จุดด่างดำจะค่อยๆ หายไปโดยไม่ถูเลย

12. คอดำระหว่างตั้งครรภ์ คุณมีปัญหานี้ไหม? หากเป็นเช่นนั้น อาจเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนระหว่างตั้งครรภ์ ทำให้ร่างกายของมารดาแต่ละคนมีปฏิกิริยากับร่างกายต่างกันไป ส่งผลให้มารดามีการเปลี่ยนแปลงของผิวหนัง ได้แก่ รอยคล้ำขึ้นหรือเข้มขึ้นตามท้ายทอย รอยพับ รักแร้ ขาหนีบ และหัวนม จุดด่างดำมักจะหายไปหลังคลอดบุตร ดังนั้นคุณแม่ไม่ต้องกังวล ไม่จำเป็นต้องถูหรือขัดแต่อย่างใด เพราะปล่อยทิ้งได้และไม่ต้องซื้อยามาทา เพราะยาบางชนิดอาจส่งผลต่อทารกในครรภ์ได้ คุณแม่จึงต้องอดทน ให้เป็นธรรมชาติ และเมื่อเวลาผ่านไปความดำค่อยๆ จางลงจนกลับมาเป็นปกติ

#วธแกคอดำ #สาเหตหมองคลำจากคราบขไคล #แสงแดด #หรอแพสรอย #มทางแกแนนอน

0/5 (0 Reviews)

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น