คลี่คลายข้อข้องใจ! สิวที่คางไม่หาย เกิดจากอะไร ? และมีการรักษาอย่างไร?

อ่าน 12,167

ถึงรอบเดือนจะผ่านไป แต่ก็ยังเป็นสิวคางซ้ำๆ.. ถ้าเบื่อกับปัญหาแบบนี้ มาทำความเข้าใจสาเหตุและวิธีการรักษากัน

เชื่อว่าปัญหาจุกจิกกวนใจสาวๆ หลายคน คงหนีไม่พ้นปัญหาเรื่องสิว โดยเฉพาะบริเวณคางที่ชอบขดตัวที่เดิมซ้ำแล้วซ้ำเล่า ตั้งแต่สิวอักเสบ สิวเสี้ยน ไปจนถึงสิวอุดตัน เล่นคางบวม เจ็บคาง ไม่ทำอะไรก็ไม่หาย วันนี้เรามีสาเหตุของการเกิดสิวที่คางและวิธีรักษา มีความรู้เล็กน้อยในการตอบคำถามนี้ ความจริงที่ว่าสิวที่คางไม่หายไปเกี่ยวข้องกับสุขภาพร่างกายที่เสื่อมโทรมของเราหรือไม่? อยากรู้คำตอบ ติดตามเราได้ที่นี่

สิวที่คางเกิดจากอะไร?


โดยปกติสาเหตุหลักของการเกิดสิวที่คางคือความผันผวนของฮอร์โมนในร่างกาย แต่พฤติกรรมประจำวันของเราซึ่งขัดกับสุขภาพของเรา ก็มีส่วนทำให้เกิดสิวที่เดิมซ้ำแล้วซ้ำเล่า ยังไม่หายเลยซักครั้ง เหตุผลที่เราสามารถสรุปได้ดังนี้

1. อาการ PMS (กลุ่มอาการก่อนมีประจำเดือน)

เป็นภาวะผิดปกติที่เกิดขึ้นระหว่างรอบเดือนของผู้หญิง รู้สึกเครียดง่าย หงุดหงิดง่าย ฮอร์โมนเริ่มไม่สมดุล สิวบนใบหน้าโดยเฉพาะบริเวณคาง เพราะฮอร์โมนเอสโตรเจน (เอสโตรเจน) สูงไปกระตุ้นการทำงานของรังไข่

2. ฮอร์โมนแอนโดรเจนจะสูงกว่าปกติ

เป็นข้อบกพร่องที่เกิดสำหรับผู้ที่มีฮอร์โมนแอนโดรเจน หรือฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนสูงกว่าฮอร์โมนเพศหญิง ส่งผลให้ผิวมัน รูขุมขนกว้าง ทำความสะอาดได้ยาก หากไม่พิถีพิถันในการดูแลผิว ทำให้เกิดสิวได้ง่าย

3. ชอบบีบสิวและสัมผัสใบหน้าโดยไม่จำเป็น

เพราะสิ่งรอบตัวเราเป็นแหล่งเชื้อโรคชั้นดี หากเราเอามือเหล่านั้นมาสัมผัสใบหน้าของเราอย่างต่อเนื่อง ปัญหาเรื่องสิวหลีกเลี่ยงไม่ได้อย่างแน่นอน และการกดสิวไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาที่ถูกต้องเลย เพราะถ้ากดแล้วสิวไม่ขึ้นเลย จะส่งเสริมให้เกิดสิวอักเสบและกลายเป็นเรื้อรังซ้ำแล้วซ้ำเล่าในจุดเดิม


4. การติดคาเฟอีน

การบริโภคเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนเป็นประจำ เช่น ชาหรือกาแฟ จะทำให้ไตทำงานหนักเกินไป และไปกระตุ้นฮอร์โมนเอสโตรเจน ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ทำให้สิวทำงานหนักขึ้นด้วย

5. แพ้ผลิตภัณฑ์บางชนิด

ไม่ใช่แค่เครื่องสำอางที่ก่อให้เกิดอาการแพ้และระคายเคืองต่อผิวหนัง แต่นั่นรวมถึงยาสีฟัน โฟมล้างหน้า และแชมพูที่อาจมีสารเคมีอันตราย ลองนึกภาพเมื่อเราแปรงฟันหรือสระผม ผลิตภัณฑ์เหล่านี้จะสัมผัสกับใบหน้าของคุณอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งถ้าแจ็คพอตมีสารเคมีที่เราแพ้ แต่ก็ต้องมีปัญหาสิวที่คาง หรือรอบปากแน่นอน

สิวที่คาง บ่งบอกโรคอะไร?

จากรายงานของ Face Mapping งานวิจัยที่มีแนวคิดหลักว่า “ใบหน้าสามารถบ่งบอกถึงสุขภาพร่างกายที่ส่งผลต่อผิวหนังได้” ส่งผลให้วิเคราะห์ว่าสิวที่คางเกิดจากปัญหาในลำไส้เล็ก พบได้บ่อยในคนที่ชอบทานอาหารรสเผ็ดและไขมันสูง เพราะอาหารที่มีรสเค็มจัด หวานจัด และเผ็ดมากทำให้ลำไส้ทำงานมากเกินไป และสามารถถูกรบกวนจนประสิทธิภาพการย่อยลดลงตามมาด้วยปัญหาของเสียตกค้าง หลังจากนั้นร่างกายจะดูดซับของเสียเหล่านี้ไปใช้และขับออกมาเป็นสิว ชอบกินของหวานหรืออาหารที่มีไขมันสูงเป็นประจำ จะเพิ่มปริมาณไขมัน ทำให้น้ำมันส่วนเกินบนใบหน้าปลอดภัยยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ ผู้หญิงคนไหนที่มีสิวที่คางโดยเฉพาะบริเวณกรามซ้ำแล้วซ้ำเล่า ก็รักษาได้ยากเช่นกัน นอกจากประจำเดือนมาไม่ปกติ อ้วน หน้ามัน กินมาก ผมร่วง ซึมเศร้า และนอนไม่หลับ สามารถจัดเป็นซีสต์ในรังไข่ได้ หรือซีสต์รังไข่ โรคนี้เกิดจากความผิดปกติของฮอร์โมนในร่างกาย หากคุณรู้ว่าคุณมีอาการดังต่อไปนี้ ต้องรีบไปพบแพทย์เพื่อให้แน่ใจว่าดีที่สุด

สิวขึ้นที่คาง ทำไงดี?

หากต้องการทราบวิธีการรักษาสิวที่คาง นอกจากการปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญแล้ว หญิงสาวยังต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมไปพร้อมๆ กับการรักษาอีกด้วย เพื่อผลลัพธ์ที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพสูงสุด

1. ทำความสะอาดและล้างหน้าให้สะอาด

สำหรับผู้ที่แต่งหน้าเป็นประจำ อย่าลืมใช้คลีนเซอร์เช็ดเครื่องสำอางให้หมดจดก่อนล้างด้วยสบู่ หรือโฟมล้างหน้าที่ใช้เป็นประจำ ส่วนขั้นตอนการอาบน้ำ ควรล้างหน้าให้สะอาดหมดจด เพื่อล้างสารเคมีตกค้างจากแชมพูหรือยาสีฟันอย่างทั่วถึง มิฉะนั้นจะเกิดสารเคมีตกค้างบนใบหน้าและทำให้เกิดสิวในที่สุด คุณควรเช็ดหรือบ้วนปากหลังอาหารแต่ละมื้อ

2. หลีกเลี่ยงอาหารรสเผ็ดและไขมันสูง

เปลี่ยนโภชนาการให้เน้นการบริโภคผักและผลไม้ อุดมไปด้วยวิตามินและไฟเบอร์ เช่น มะละกอ กล้วย ส้ม ผักโขม หรือบร็อคโคลี่ เพื่อช่วยชำระล้างสิ่งตกค้างในลำไส้ หากคุณต้องการดื่มนมสดให้เลือกไขมัน 0% โดยเฉพาะหากคุณสามารถออกกำลังกายและควบคุมน้ำหนักได้อย่างเหมาะสม จะทำให้ฮอร์โมนกลับมาเป็นปกติดียิ่งขึ้น

3. ดูความสะอาดของเครื่องใช้และพิถีพิถันในการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์

โดยเฉพาะสิ่งที่สัมผัสใบหน้าเราเป็นประจำ โทรศัพท์มือถือ ปลอกหมอน ผ้าปูที่นอน ผ้าเช็ดหน้า ควรล้างมือให้สะอาดก่อนสัมผัสใบหน้าทุกครั้ง ส่วนเครื่องสำอาง แชมพู และยาสีฟันที่ใช้ ก็ควรเป็นสูตรอ่อนๆ ปราศจากสารเคมีอันตราย แอลกอฮอล์ และน้ำมัน ลดความมันส่วนเกิน ไม่ระคายเคืองผิว ไม่มีอาการแพ้บนใบหน้า


4. ดูแลสุขภาพกายและใจอยู่เสมอ

เนื่องจากความเครียดเป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดสิว สาวๆ ควรหากิจกรรมหรืองานอดิเรกที่สนุกสนานเพื่อผ่อนคลาย เมื่อฉันรู้ว่าฉันอยู่ในสถานการณ์ที่ตึงเครียด ไม่ว่าจะเดิน ช้อปปิ้ง ดูหนัง ฟังเพลง อ่านหนังสือ หรือออกกำลังกาย สิ่งสำคัญคือต้องงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ งดสูบบุหรี่ รวมทั้งพักผ่อนและดื่มน้ำให้เพียงพอ

5. ใช้มาสก์รักษาสิวแบบธรรมชาติ

หากกังวลว่าจะแพ้ยาจนเป็นสิวหนักกว่าเดิม แนะนำให้กินผักผลไม้ที่อุดมด้วยวิตามินเอ มะเขือเทศ หรือมะละกอ มาบิดเคลือบบริเวณที่เป็นสิวง่ายประมาณ 15-20 ครั้ง นาทีก่อนซักเป็นประจำ ซึ่งจะช่วยลดอาการบวมและรอยแดง สิวอักเสบ ทำให้ผิวกระจ่างใสขึ้นด้วย

6. ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

สำหรับคนงานยุ่งไม่มีเวลาดูแลตัวเองอย่างจริงจัง ทางที่ดีควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการรักษาที่ถูกต้อง ซึ่งทุกวันนี้มีวิธีการรักษาสิวแบบเร่งด่วน ไม่ว่าจะเป็นการฉีด เลเซอร์ หรือการทานยาเพื่อควบคุมสมดุลของระดับฮอร์โมน แต่ให้แน่ใจว่าคุณมีเงินเพียงพอ เพราะค่ารักษาและค่ายาก็ค่อนข้างสูงเช่นกัน

ใครสามารถเปลี่ยนแปลงและรักษาจนหายสนิท? อย่างไรก็ตาม อย่ากลับไปเป็นพฤติกรรมเดิมๆ ที่ทำลายสุขภาพของตัวเองอีก ไม่อย่างนั้นสิวที่คางจะกลับมาซ้ำแล้วซ้ำเล่า ไม่ใช่แค่ช่วงมีประจำเดือนแน่นอน

#ไขขอของใจ #สวขนคางไมยอมหายสาเหตเกดจากอะไร #และมวธรกษาอยางไร

0/5 (0 Reviews)

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น