ข้อมูลของบทความนี้จะเกี่ยวกับใบ จาน หากคุณกำลังเรียนรู้เกี่ยวกับใบ จานมาสำรวจกันกับbirthyouinlove.comในหัวข้อใบ จานในโพสต์ใบจานกลมและใบจานเบี้ยว แตกต่างกันยังไง แชร์จากประสบการณ์จริงนี้.
สารบัญ
ข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับใบ จานในใบจานกลมและใบจานเบี้ยว แตกต่างกันยังไง แชร์จากประสบการณ์จริงล่าสุด
ที่เว็บไซต์birthyouinlove.comคุณสามารถอัปเดตเอกสารอื่น ๆ นอกเหนือจากใบ จานสำหรับข้อมูลที่เป็นประโยชน์มากขึ้นสำหรับคุณ ที่เพจBirth You In Love เราอัพเดทข่าวใหม่และแม่นยำทุกวันสำหรับคุณ, ด้วยความปรารถนาที่จะให้บริการคุณอย่างคุ้มค่าที่สุด ช่วยให้ผู้ใช้สามารถอัพเดทข้อมูลออนไลน์ได้อย่างแม่นยำที่สุด.
การแบ่งปันบางส่วนที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อใบ จาน
คลิปนี้เปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างใบจานกลมกับใบจานนอกรีต แตกต่างอย่างไร แบ่งปันจากประสบการณ์จริง
ภาพบางส่วนที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อของใบ จาน
นอกจากการอ่านข้อมูลเกี่ยวกับบทความนี้ ใบจานกลมและใบจานเบี้ยว แตกต่างกันยังไง แชร์จากประสบการณ์จริง คุณสามารถดูและอ่านบทความเพิ่มเติมด้านล่าง
บางแท็กที่เกี่ยวข้องกับใบ จาน
#ใบจานกลมและใบจานเบยว #แตกตางกนยงไง #แชรจากประสบการณจรง.
จักรยานเสือหมอบ,การปั่นจักรยาน,ใบจานเสือหมอบ.
ใบจานกลมและใบจานเบี้ยว แตกต่างกันยังไง แชร์จากประสบการณ์จริง.
ใบ จาน.
หวังว่าการแบ่งปันที่เราให้ไว้จะเป็นประโยชน์สำหรับคุณ ขอขอบคุณที่อ่านข้อมูลใบ จานของเรา
ทำไมสปรินเตอร์ถึงไม่เหมาะหรอครับ
ปั่นปกติก็จบละ
พูดดังๆๆหน่อยกลัวใครได้ยิน
ถ้าปั่นรอบขาจัดมันจะรู้สึกวืดไหมครับ
ิปั่นขึ้นเขาชันๆมีรุนแน่
หลักการเดียวกับ ยืดชักมอไซค์
เสียงเบามากครับ
ขอบคุณครับ สนใจอยากจะลองใช้มานานแล้ว แต่ว่ามันติดตรงที่ว่าไม่ใช่มือโปร แต่ที่สำคัญก็คือเงินนี่แหละครับ 5555
เหมือนกำลังโดนสะกดจิต ผมเริ่มเห็นแต่ขาจาน
หลักการเหมือนโมเม้นต์ทั่วไปรึเปล่า จังหวะกด ระยะแขนแรงสั้นทำให้กดลงไว
ขาจานสั้นยาวมีผลต่อการขึ้นเขาไหมครับ ขาจานสั้นหรือยาวจะเหมาะต่อการไต่เขาครับ
แต่ในทางกลับกัน ช่วงกดก็จะกดแรงกว่าใบปรกตินิดนึงด้วยเช่นกัน ไม่มีอะไรได้มาฟรีๆหรอกครับ ปั่นขึ้นเขาโซ่ไปเร็วมากๆ ยิ่งมือใหม่กดไม่รู้เรื่องด้วยนะ จบเลย พวกชอบของแปลกก็น่าจะโอ แต่ขาปรกติ อย่าคิดลองเลยครับ ไม่สนุกหรอกเชื่อผมเถอะ
จานกลมกับจานBIO-PACEหรือจานเบี้ยวหรือที่เรียกว่าจานไข่..มีการใช้มานานตั้งแต่ปีประมาณ1980..ผู้ผลิตหลักๆก็shimanoกับsuntour….จานกลมนี่ไม่ขอพูดนะครับ..ขอพูดเฉพาะจานไบโอ.BIO-PACE…ในสมัยที่ผลิตนั้นเทคโนโลยียังไม่มีเครื่องวัดวัตต์แต่วัดที่ความรู้สึกที่ได้รับจริงๆจากการปั่น..เหมือนหมอวินิจฉัยโรคยุคเก่าที่วินิจฉัยจากอาการกับยุคปัจจุบันที่วินิจฉัยจากเครื่อง..ซึ่งมีดีคนละอย่าง…….จานBIOนั้นผลิตมาแก้การปลดปล่อยพลังงานจากนักจักรยาน.ซึ่งใน1รอบของจานกลมจุดด้อยของการปลดปล่อยพลังงานจากผู้ขี่คือจุดที่11-2นาฬิกาและ5-8นาฬิกาโดยประมาณ…….จานbio จะเข้ามาชดเชยในจุดนั้นให้การปลดปล่อยพลังงานจากผู้ขี่ในตำแหน่งนั้น……ให้ใบจานส่งแรงลงสู่โซ่ได้เท่าเดิมอย่าพึ่งงงนะครับ.เพราะแรงจากผู้ขี่นั้นพอถึงจุดนี้ก็ด้อยเหมือนเดิมพลังงานลงสู่โซ่ก็ด้อยเหมือนเดิม…พอเปลี่ยนมาเป็นจานbio..จานใบโอจะทำให้จุดนี้มีพลังงานลงสู่โซ่เท่าเดิมครับ……..
..จานbioมีขนาดตั้งแต่46ฟันจนถึง53ฟันทั้งในแบบภูเขาและเสือหมอบ..แล้วมีแบบดีไซด์หรือเบี้ยวที่ไม่เท่ากันมากกว่า10แบบครับ..การเบี้ยวที่แตกต่างกันนั้น..อยู่ที่ผู้ผลิตจะกำหนดให้ใช้กับสถานะการขี่แบบไหน..แล้วจะชดเชยที่องศาไหน.ครับ.
ผมเคยใช้มาตั้งแต่ปี2542น่าจะครบทุกแบบทุกแบรนด์..มากกว่า1000ใบ.ในทุกระยะทางทั้งใกล้ไกลแต่ไม่ได้เป็นการแข่งขันอย่างจริงจังแต่เป็นการเดินทางอย่างจริงจัง.ตั้งแต่ทริปไปกลับวันละ200-300กมจนถึงเดินทางต่อเนื่องเป็น1000กมในเวลา4-5วันทั้งทางราบภูเขา..แล้วศึกษาอย่างละเอียด..พอสรุปได้ว่า ถ้าเป็นทางราบ ถ้านักจักรยานที่ใช้จานกลมแล้วมาขี่จานbioแล้วใช้พฤติกรรมการขี่แบบจานกลมท่านจะเหนื่อยแบบลิ้นออกมาข้างนอกเลย…แล้วระยะทางจะหายไปอย่างมากมายเพราะหมดแรง…ท่านต้องฝึกการใช้ก่อน.ฝึกคือถอดคลิปเลสออกแล้วเอาบันไดธรรมมาปั่นก่อน.ปั่นจนเข้าใจว่าที่มันวืดนั้นเเหละคือจุดผ่อนแรง?แล้วเราต้องมาลดแรงกดตรงนี้ การลดแรงกดจนไม่วืดเท่ากับเราได้ผ่อนแรงถูกต้องไหมครับ…
เพราะฉะนั้นทำไมจานbioถึงขี่ได้เร็วกว่าไกลกว่า.ก็เพราะมันมีจุดให้ร่างกายได้พักผ่อนในทุกๆรอบขา…เราจึงขี่สบาย…ไม่ว่าจะแข่งขันหรือไม่ก็ตาม.? เมื่อปี2551ในทีมผมซึ่งมีนักจักรยานหญิงเพียงคนเดียว แล้วนักจักรยานหญิงนี้ใช้รถล้อ26คันเดียวในกลุ่มขี่กันมานานทุกเช้ามีด.ทีมนี้เป็นทีมแข่งขันเดิมมานานแล้ว..นักจักรยานหญิงจะขี่อยู่ตำแหน่งกลางๆแถว..พอเปลี่ยนจานมาเป็นbioแล้วเขาไปฝึกขี่ก่อน.พอมาเข้ากลุ่มวันแรก..เขาขยับไปหัวแถวแล้วพอก่อนถึงจุดหมายปลายทางเขาขี่ไปอยู่อันดับ2แถมยังสปินท์ทิ้งหัวลากเข้าที่พักไปเลย..แล้วมีอีกเป็น100ทริป….มีทริปหนึ่งไปกลับ300กมเขาสามารถขี่กลับถึงมาแค่คันเดียวกับคันผมซึ่งใช้bioเหมือนกัน..มันประหยัดแรงจริงถ้าฝึกขี่ก่อนครับ..
….แล้วที่ว่าทำไมผมถึงเคยใช้เป็น1000ใบเพราะมันมีเหตุที่ผมต้องใช้ครับเพราะ1000ใบนั้นจักรยานก็1000คัน.แล้วผมมีความจำเป็นต้องขี่ทุกคันคันละ30-60กม.ครับ….
….แต่ไม่เหมาะกับทางภูเขาสูงชัน…ถ้าภูเขาประมาณตากมาลำปางพะเยานี่.จานbioขี่ได้ดีเยี่ยม.ถ้าจากน่านมาบ้านหลวงเชียงม่วนดอกคำใต้พะเยาที่เคยใช้แข่งขันนานาชาติเมื่อต้นปีหรือปลายปีที่แล้วนี่จานbioถึงจะฝึกอย่างไรก็ไม่น่าจะใช้ได้ดีครับ…..การฝึกขี่จานbioคือการปั่นแบบสมูทๆเป็นธรรมชาติถึงเวลาเบาก็กดเบาเพราะจุดเบานั้นคือจุดด้อยในจานกลม..แล้วเราก็ลดแรงกด..ปัญหาคืออย่าเอาความเคยชินของการปั่นจานกลมมาใช้ในจานbio ครับ…แล้วมาฝึกขี่ใหม่กับจานbio..แล้วจะสนุกกับจานปั่นที่มีทั้งความเนียนแล้วห้าวกร้าวร้าว.ในใบเดียวกันครับ
……
….จานbioนี่ถ้าเป็นการปั่นแบบสปิ้นท์เช่นสปินท์ขึ้นเขาหรือลงเขาหรือทางราบแบบข้ามแยกไฟแดงนี่มันจะแสดงประสิทธิภาพเหนือจานกลมอย่างชัดเจนเหมือนขับรถติดเทอร์โบเลยละ…แต่สิ่งที่จานbioไม่ชอบคือการขี่แบบซอยรอบจัดๆครับ…มันจะหนักและเหนื่อยมากๆๆๆ
froome บอกเองว่ามันไม่ได้ช้วยให้ปั่นดีขึ้น แค่ชอบฟิลลิ่งเฉยๆ
ตอนแรกคิดว่ามันคงไม่ต่างอะไรมากพอมาฟังคลิปนี้แล้วอยากลองหาซื้อมาปั่นเลย
ประเมินเคร่าๆลดวัตต์ได้ประมาณกี่เปอร์ครับ ถ้าเปรียบเทียบกับใบกลมนะครับ
ลองทดลองติดที่วัด วัตต์ให้ดูหน่อยครับ ปั่นบนเทรนเนอร์ก็ได้ เทียบความเร็วเป็นตัวแปรควบคุม แล้วไปดูว่าเซฟแรงเซฟวัตต์ได้จริงไหม