เปิดเรื่องจริง…กรรมให้คิดขโมยสามี ถึงเวลาของศัตรูเอง!

อ่าน 11,594

วันนี้ แก๊งบิวตี้ มีบทความที่สร้างแรงบันดาลใจ “เรื่องบุญ บาป กรรม ขาดคุณธรรมและคุณธรรมที่ผิดศีล” สำหรับคนที่ต้องการปล้นสามีภรรยาเพื่อปลอบใจ หรืออาจจะเพราะความรัก ลองอ่านเรื่องนี้ดู รับรองว่าจะเปลี่ยนใจ เปลี่ยนทัศนคติในการใช้ชีวิตใหม่อย่างถาวร

เรื่องที่จะเล่านี้ มันเกิดขึ้นกับเราเมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2552 ว่าด้วยเรื่องของพวกเรา

ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นกับเรา ก่อนอื่นเราจะบอกว่าเราแต่งงานกับสามีคนนี้เมื่อต้นปี

2552 แต่คบกันมา 10 ปี ตอนนี้ท้องได้ 8 เดือนแล้ว แต่เรื่องเกิดขึ้นเมื่อ

เราท้องได้ 5 เดือน ประมาณ 19.00 น. สามีของเราโทรมาด้วยเสียงที่ฟังดูเครียด

สามี: ไม่ ฉันมีเรื่องจะบอกคุณ

เรา : เรามีเรื่องจะพูด เมื่อคืนง่วง นอนดึกไปหน่อย

สามี: ฉันมีภรรยาคนอื่นก่อนจะแต่งงาน


ฉัน : ฉันอึ้งจนพูดอะไรไม่ออก น้ำตาไหลโดยไม่รู้ตัว

จากนั้นเราก็วางสาย ผ่านไปประมาณหนึ่งนาที โทรศัพท์ก็ดังขึ้นอีกครั้ง

สามีของฉันโทรมาและเรารีบรับสาย

สามี: ฉันจ่ายค่าเช่าห้อง ค่าหอพักก็บริจาคให้เขาด้วย พ่อของฉันรู้เรื่องนี้มานานแล้ว

ฉัน : แล้วยังไง? (น้ำตา เสียงสั่น)

สามี: ฉันจะขอให้คุณเลิกกับเขา เขาบอกให้ฉันโทรหาคุณ เลิกกับเขา

ฉัน : คุณไม่จำเป็นต้องเลิกกับเขา คุณเลิกกับฉันได้ เพราะสิ่งที่คุณทำ คุณไม่ได้รักฉันแล้ว คุณไม่ต้องการฉันอีกต่อไป

ต้องเลิกกับเขา

จากนั้นเราก็วางสาย ร้องไห้ทั้งคืน

คุณคงสงสัยว่าถ้าสามีภรรยาไม่ได้อยู่ด้วยกัน เราไม่ได้อยู่ด้วยกัน เพราะเสร็จแล้ว

แต่งงานแล้วไม่เกี่ยวข้องกับผู้หญิงอื่น

ดังนั้นเราจึงพยายามคิดว่านั่นอาจเป็นกรรมที่เราทำ ตอนเราเป็นวัยรุ่น

เรื่องวัยรุ่นของเราคือ

ต้นปี 1997 เราอายุประมาณ 20 ปี จบการศึกษาและทำงานให้กับบริษัทและทำความรู้จักกัน

กับผู้ชายคนหนึ่งและกำลังคบหาอยู่กับเขาทั้งๆ ที่รู้ว่าเขามีแฟนแล้ว แต่ตอนเป็นวัยรุ่นกูจะเอา

ส่วนใครจะเป็นพ่อแม่ผู้ชายอย่างเรา ยิ่งเราเรียนรู้ว่ามันคืออะไรฉันต้องรู้

ทำให้เราหันกลับมามองตัวเองตอนนี้ “ผู้หญิงคนหนึ่ง เมื่อแฟนสาวถูกขโมย เขารู้สึกอย่างไร”

แต่เรื่องนั้นลงท้ายด้วย “เราเองที่ออกมา เพราะเขาคิดว่ายังไม่ใช่คนที่เราจะโพสต์หลักฐานให้


จริงๆ” จนถึงสิ้นปี 2000 เราไปทำงานที่จังหวัดราชบุรีแล้วยังไม่เลิกนิสัยชอบลักขโมยของจากสามีเรา

หรือแฟนคนอื่น เราคบกับสามีคนอื่นทั้งๆ ที่รู้ว่าเขามีลูกและภรรยาแล้ว แต่เราจะไม่พูด

ภรรยาคุณผิดอะไรที่ฉันเป็นแฟนของสามีคุณ (เราไม่เคยมีความสัมพันธ์กับชายสองคนนี้)

แต่ด้วยความปรารถนาที่จะมี เราคบหากับผู้ชายคนนี้จนได้เจอสามีคนปัจจุบัน

อย่างแน่นอนเราย้ายมาทำงานที่ กทม. เหนื่อยกับการเป็นที่ 2 อยากเป็นส่วนหนึ่งของคนที่รักเรา

ฉันอยู่กับสามีมาตั้งแต่ปลายปี 2543 ตั้งแต่เขาเรียนจบจากมหาวิทยาลัยรามคำแหงตอนปลายและได้บวชให้คุณ

ผู้ปกครองเมื่อปลายปี 2548 และนักเรียนเนติที่สำเร็จการศึกษาในปี 2549 และทำงานเป็นตำรวจเมื่อปลายปี 2550

แต่เราแต่งงานกันเมื่อต้นปี 2552 ตั้งแต่นั้นมา เราก็ได้อยู่กับสามีของเรา แล้วพบกันใหม่ครับ (นี่คือคนแรกของเรา

ฉันรู้ด้วยว่าเกิดอะไรขึ้น)

นับตั้งแต่ที่พวกเขาเดทกัน เขาไม่เคยมีนิสัยเจ้าชู้ให้เราหวาดระแวง เพราะเขาเป็นคน

ไม่ค่อยมองใคร แต่สิ่งที่เกิดขึ้นเกิดจากการที่ผู้หญิงคนนี้ติดต่องานของสามีเรา สามี เราต้องตกลงกัน

ว่าเขามีความสัมพันธ์แบบชู้สาวประมาณหนึ่งปี สามีของเราเล่าเรื่องทั้งหมดให้เราฟัง

เล่าว่า ผู้หญิงคนนี้ชวนกินข้าว ชวนไปเที่ยวที่ไหนก็ได้ จึงมีทุกข์มีทุกข์ไปด้วยกัน

เราทั้งคู่เสียใจ แต่ไม่เคยบ่นว่าสามีไม่โกรธ เพราะเราก็รู้อยู่แก่ใจว่าเรามี

ขโมยของจากแฟนและสามีคนอื่นด้วย

สามีขอโอกาสแก้ตัวอีกครั้งและขอโทษเราในอนาคตเท่านั้น

เราจะไม่ทำมันอีก แต่ในใจเราไม่ไว้ใจ สามีตัวเองมีมันเป็นครั้งแรกอีกครั้ง ต้องมีครั้งที่สอง

แต่เราไม่เคยโทษใครมากกว่าตัวเอง ไปทำอะไรให้คนอื่นเขามาทำ

วันนี้ก็ 3 เดือนกว่าแล้ว แต่เรายังไม่ลืมว่าเกิดอะไรขึ้น วันนี้สำหรับ “เด็ก”

หายใจอยู่เพื่อ “ลูก” คนเดียว แล้วสามีล่ะ? เราไม่สามารถบังคับอะไรได้นอกจากเขา

มาที่บ้านเรา มีเพียงไม่กี่วันที่เขาจะเข้ากะตอนเที่ยงคืนและออกตอน 6 โมงเช้า เขาจะอยู่กับพ่อที่กรุงเทพเพราะ

บ้านเราอยู่ไกลจากที่ทำงาน ในทุกจังหวัด

แต่เราห้ามไม่ได้ ไม่มีทางมีใหม่ได้ แต่ถ้าจิตสำนึกคิดได้ เขาคงไม่ทำแบบนั้นอีก แม้แต่พ่อของเขาด้วย

เขารู้ว่าพ่อของเขาไม่ได้ขับไล่เขา ตามประสงค์ “อิงหมี แบ่งเวลาให้ดี” พ่อตากล่าว

เขาไม่ชอบเรามาก เขาจึงให้กำลังใจสามีของเรา (เราคิดแบบนี้) คนกลายเป็นพ่อแม่เมื่อมีลูกเป็นของตัวเอง

ถ้าทำผิดต้องตักเตือน ไม่ใช่ “ตามใจชอบ” นี่เป็นหนึ่งในเหตุผลที่เราไม่ไปอยู่กับสามีที่กรุงเทพฯ

เพราะการอยู่กันเป็นครอบครัวใหญ่ทำให้อึดอัด ยิ่งไม่ชอบเรา เรายิ่งอยู่บ้านดูแลพ่อแม่ดีขึ้น

สะดวกสบายขึ้นเสมอ

ฉันหมายถึงผู้หญิงที่วางแผนจะขโมยแฟนหรือสามีคนอื่น หรืออยากเป็นเมียน้อย

ได้โปรดเถิด “กรรมที่ติดอยู่ในชีวิตนี้ ไม่ต้องรอชาติหน้า” มันเจ็บกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ต้องทำ

อยู่เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นเราไม่เคยบอกใคร มันเจ็บ ฉันร้องไห้ทุกวัน ฉันหวาดระแวง กังวล กลัว

แต่พยายามอย่าคิดมาก

ลืมอีกเรื่อง ผู้หญิงคนนี้โทรมาบอกว่า

หญิง : โอปป้า… งั้นเหรอ? ฉันเป็นภรรยาของคุณ…

ฉัน : อืม เป็นไงบ้าง


ภรรยา : ขอสามีคุณได้ไหม เพราะถ้าเขารักคุณ เขาจะไม่นอกใจคุณให้มาหาฉัน

ฉัน: มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับคุณ พี่…คือคนตัดสิน ถ้าเขาไป คุณไม่สามารถหยุดเขาได้ (แต่ฉันกำลังร้องไห้อยู่ข้างใน)

ภรรยา : ฉันถามสามีคุณ ฉันจะให้สามีเลิกกับคุณ

ฉัน : อยากได้อะไรก็เอาไปเถอะ

เราบอกสามีของเรา สามีโกรธมากที่ผู้หญิงคนนี้โทรมาแกล้งเรา แต่เรารู้สึกได้

เพราะเราเข้าใจผู้หญิงคนนี้เพราะเธอมาก่อน

ทุกวันนี้ ผู้หญิงคนนั้นส่งข้อความและโทรศัพท์ และโทรไปเมื่อเร็วๆ นี้

พูด

หญิง : อปป้า….ตอนนี้พี่…อยู่กับฉันนะ

ฉัน : นิ่งเงียบ (แต่ในใจกังวลไม่รู้จะเชื่อใคร)

ผู้หญิง : คุณเป็นอะไรมากไหม? ฉันขอโทษ. ฉันขอโทษ. อย่างไรก็ตาม คุณไม่ได้อยู่ที่นี่ด้วยกัน คุณควรมา.

ทำไมคุณถึงกังวล?

ฉัน : คุยเสร็จแล้วหรอ นั่นคือทั้งหมดที่ (ยังเศร้าและร้องไห้เพราะไม่รู้จะเชื่อใคร)

แต่วันนี้สามีทำงาน เราโทรไปเช็คที่ทำงาน และเขาก็อยู่ที่นั่นด้วย เขาไม่ได้โกหกเรา

อยากจะบอกสาวๆ หลายๆ คนที่เคยเจอเหตุการณ์อย่างเราว่า “ใจเย็นๆ” หากคุณกำลังจะสาปแช่งอย่าตี

สามีจะพรากสามีไปจากเรา ไม่ว่าจะด้วยวิธีใด เรื่องราวยังไม่จบ แต่ไม่เป็นไร เรามีเรื่องสำคัญ

กว่าจะรอ

#เปดเรองจรงกรรมจากการคดแยงผวเขา #ถงคราวตวซวยเอง

0/5 (0 Reviews)

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น