เปิดคำทำนาย “ครูบาศรีวิชัย” เมื่อร้อยปีที่แล้ว ตอนนี้ทุกอย่างลงตัว!

อ่าน 9,499

วันนี้ แก๊งบิวตี้ จะพาแฟนๆทุกคนได้รู้จัก “ครูบาศรีวิชัยแห่งล้านนา” ผู้ที่มีกฎเกณฑ์ที่สวยงามและเคร่งครัดนอกจากจะเป็นผู้นำในการสร้างทางไปวัดพระธาตุดอยสุเทพด้วยพลังศรัทธาของผู้คนมากมายทั้งทางกายและทางกาย ซึ่งใช้เวลาเพียง 5 เดือนในการสร้างโดยไม่ต้องใช้งบประมาณแผ่นดินหรือส่วนราชการ


นอกจากนี้! ยังมีสิ่งที่น่าสนใจ ครูบาศรีวิชัย เป็นคำทำนายประเทศในอนาคต ซึ่งเป็นสิทธิที่แปลกในปัจจุบันซึ่งหมายถึง (ภาษาคำเมือง)

“วันข้างหน้า…วัดจะดูหมองคล้ำ เหลียวหลัง นางจะเหลียว หงเหียนจะดี คนไม่มีข้าวก็กินข้าวได้ ชายชราสวมเขี้ยวขาว แม่หัง นางจะสวม ผ้าขาวม้า ป่าเหมือนกิ่งก้าน ภูดอยจะเป็นล้าน คนเกียจคร้านจะมีอาหารดี คนชั่วหนีไปนอนทับกาดเต็ม บ้านเต็มเมือง น้ำจากเหมืองพาแม่ควาย ควาย คนแก่ไม่มีความคิดปู่ป่า หนีน้ำ เอาน้ำตกเพ็ญดีถ้ำแอ่วดิจุม คนจะรวมกันเป็นชิ้นเดียว ประเทศจะโกรธ ฉันไม่เรียนให้ฟังหรอก มีคนใจดำทั่วประเทศ คนเหมือนผีเหมือนพัทธ์ เต็งแม่หญิงโพธิ์ใจ ฉันมีถุงข้าว ข้าวมีถุงข้าว หน้าตาดี ไม่มีใครปีนหอยเหมือนหอยงู จักรจักรบนพื้นหนึ่งศอก บ่อน้ำอยู่บนเฮือน เทือกเขาคือ เลื่อนขึ้นไปในอากาศ จากปราชญ์มาขายควายเหล็ก คนมีหูบินได้ จะมีเสมอ ก่อนเธอ..หลายปี..”

โดยแปลเป็นภาษากลางว่า

“ในอนาคตวัดจะไม่ค่อยมีคนมาทำบุญหรือฟังธรรม ครกมองข้าวที่โขลกแล้วจะไม่มีใครเอามาใช้โขลกอีกเลย ถนนจะราบเรียบไปง่าย โรงเรียนจะยิ่งใหญ่ คนจนก็ต้องกิน คนแก่จะใส่ขาเทียมเต็มปาก หญิงหม้ายละทิ้งโสร่งหันไปสวมกางเกงขายาว สุสานจะสว่างไสวไปด้วยเสียงเพลง (เพลงของ ขบวนแห่ศพ..บางแห่งมีวงดนตรีเล่นสดช่วงเผาศพหรือบรรเลงเพลงโปรดของผู้ตาย..) ภูเขาไม่มีต้นไม้ มีคนเกียจคร้านกินดี คนชั่วจะพินาศ มีร้านค้าขายทั้งเมือง น้ำคลองซอยเล็กขึ้นอยู่กับน้ำในแม่น้ำใหญ่ วัวควายค่อยๆ หายไป คนแก่ถูกทิ้งให้อยู่ตามลำพัง ปูก็หายไปจากแม่น้ำด้วย คนชอบเดินทางผ่านถ้ำและน้ำตก หลายคน รวมตัวกันประท้วง ประเทศจะข ในความโกลาหล เด็กและเด็กจะดื้อรั้นไม่ยอมเชื่อฟังผู้ใหญ่ คนไร้ยางอายจะอยู่ทุกมุมเมือง คนจะเป็นเหมือนผีและผีโลภ ทั้งชายและหญิงสวมผมยาวประบ่า ข้าวที่มีอยู่ยังไม่ได้โขลกด้วยครก ถนนดีแต่คนไม่เดิน รอยเท้าคนก็เหมือนรอยงู (ล้อรถ) คนจะลอยอยู่เหนือพื้นดิน มีก๊อกน้ำในบ้านพร้อมน้ำดื่มใช้งานง่าย สายไฟและสายโทรศัพท์มักจะเชื่อมต่อกันในชุมชน คนเก่งผลิตรถแทรกเตอร์เพื่อการเกษตร ทุกคนมีญาณทิพย์ (โทรศัพท์-โทรทัศน์-อินเตอร์เน็ต) ประชาชนมียานพาหนะทั้งบนดิน-บนดิน-บนฟ้า หรือเครื่องบิน สิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นอย่างแน่นอนในอนาคต พี่น้อง…”


หมายเหตุ: ในบางประโยค เป็นปริศนาที่ลึกซึ้ง ไขปริศนาและคิดหาสามัญสำนึก หากใครมีความรู้และช่วยแปลได้จะเป็นพระคุณอย่างสูง

ประวัติครูบาศรีวิชัย

นายอินท์ เฟน อาศัยอยู่ในหมู่บ้านทะเลทราย มีชนกลุ่มน้อยจำนวนมากโดยเฉพาะชาวกะเหรี่ยง สมัยนั้นบ้านปางไม่มีวัดประจำหมู่บ้าน จนกระทั่งนายอินท์ เฟน อายุ 17 ปี มีพระภิกษุรูปหนึ่งชื่อ “ครูบาขติยะ” หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า “ครูบาแก่งแท” (แปลว่า ขาพิการ ขาอ่อน) เดินจาริกจากบ้านป่าซางมายังหมู่บ้านแห่งนี้ ชาวบ้านเชิญเขาไปอยู่ที่บ้านปาง และช่วยสร้างกระท่อมชั่วคราวเพื่อระลึกถึงวันเข้าพรรษา

Boy Intfane จึงได้รับมอบหมายให้เป็นสาวกและเมื่ออายุได้ 18 ปีเขาก็ได้บวชเป็นสามเณรในวัดนี้โดยมีครูบาขติยะเป็นพระอุปัฏฐาก 3 ปีต่อมา (2442 ก่อนคริสตศักราช) ได้บวชในห้องโถงอุปสมบทของวัดบ้านโฮ่งหลวง อ.บ้านโฮ่ง จ.ลำพูน โดยมีศาสตราจารย์วัดบาสมานาบ้านโฮ่งหลวงพระอุปัชฌาย์ได้รับฉายาว่า “สิริวิชัยโภคกู” เรียกว่า พระศรีวิชัย หลังอุปสมบท

หลังจากอุปสมบทแล้ว พระศรีวิชัย ศิริวิชโยภิกขุ ได้เสด็จกลับเข้าพรรษา ณ วัดบ้านปาง เป็นเวลา 1 ปี แล้วเสด็จไปศึกษาพระธรรมวินัยกับครูบาอุปาลา วัดดอยแต้ อำเภอแม่ทา จังหวัดลำพูน และอีกท่านหนึ่งที่ถือว่าเป็นครูบาศรีวิชัยคือครูบามานะจากวัดบ้านหงหลวง ใครเป็นติวเตอร์ของคุณ

ครูบาศรีวิชัย ได้รับการศึกษาจากครูบาอุปาลา วัดดอยแตง เป็นเวลา 1 ปี เดินทางกลับวัดบ้านปางจนถึง พ.ศ. 2444 ครูบาขติยะอายุ 24 ปี ออกจากบ้านปาง (บ้างก็ว่ามรณะ) ครูบาศรีวิชัยจึงทำหน้าที่เป็นเจ้าอาวาส และเมื่อเข้าพรรษา ๕ จบ ได้เป็นเจ้าอาวาสวัดบ้านปาง จึงได้ย้ายวัดไปอยู่ในที่ที่เหมาะสม บริเวณนี้เป็นบริเวณเชิงเขาซึ่งปัจจุบันเป็นที่ตั้งของวัดบ้านปาง เพราะเป็นสถานที่สันโดษและสามารถปฏิบัติธรรมได้เป็นอย่างดีโดยตั้งชื่อวัดใหม่นี้ว่า วัดจอมศรีสายมูลบุญเรือง แต่ชาวบ้านโดยทั่วไปยังนิยมเรียกกันว่าวัดบ้านปางตามชื่อหมู่บ้าน

ครูบาศรีวิชัย เป็นนักบวชที่หล่อเหลาและเคร่งครัด เขาเว้นจากการกินพลูและสูบบุหรี่อย่างสมบูรณ์เขางดเว้นจากการกินเนื้อสัตว์ ตั้งแต่ฉันอายุ 26 และทานอาหารมื้อเดียว มักเป็นผักต้มกับเกลือและพริกไทย บางครั้งฉันไม่กินข้าวเป็นเวลา 5 เดือน ผักที่คุณจะไม่กินเลย ได้แก่ ผักบุ้ง ผักที่ไม่ใช่ผัก ผักหมาก ผักหมาก ผักโขม และผัก (ทิ้งตามวัย) ให้เหตุผลว่า ถ้าภิกษุหรือสามเณรได้ละเว้นได้ การฝึกสมาธิก็จะก้าวหน้า ผิวจะเปล่งปลั่ง ธาตุทั้ง 4 จะเป็นธรรมดา ถ้าชาวบ้านละเว้น ก็จะใช้เวทมนตร์ได้ดี


คำสอนของครูบาศรีวิชัย

ครูบาศรีวิชัย มีความปราถนาที่จะบรรลุธรรมอันสูงสุดตามคำอธิษฐานบารมีที่ท่านมี อธิษฐานว่า “ขอพรพระธรรมติดพระนิพพานเท่านั้น” และบ่อยครั้งความปรารถนาดังกล่าวมักปรากฏอยู่ที่ส่วนท้ายของคัมภีร์ใบลานทั้งหมดที่คุณสร้างขึ้น

วันนี้ครูบาศรีวิชัยยังคงเป็นที่เคารพนับถือของชาวภาคเหนือของประเทศไทย โดยเฉพาะชาวเขา ซึ่งจะเห็นได้จากข้อเท็จจริงที่ว่าชาวเขากลุ่มใหญ่ในปัจจุบันยังไม่กินเนื้อสัตว์ตามคำสอนของครูบาศรีวิชัยที่สืบทอดมาจากบรรพบุรุษและเป็นพระภิกษุองค์แรกด้วย ทำให้ชาวเขาเลิกบูชาผีเช่นกัน

#เปดคำทำนาย #ครบาศรวชย #เมอรอยปทแลว #ตอนนเปนจรงทกอยาง

0/5 (0 Reviews)

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น