เปลี่ยนชีสขุนให้เป็นอาหารลดน้ำหนักด้วย 6 สูตรนี้

อ่าน 13,845

ออกกำลังกายหนักแต่น้ำหนักไม่ลด แถมพุงยังบวมตลอด! สิ่งเหล่านี้สามารถกีดกันมากกว่าหนึ่ง ซึ่งอาจเกิดจากพฤติกรรมการกินที่ไม่เหมาะกับสุขภาพ ไขมันหรือสารพิษตกค้าง วันนี้ขอเสนอเมนูสุขภาพมาแบ่งปัน นี่คือเมนูอาหารเช้าที่ประกอบด้วย “ชีส” ที่อุดมไปด้วยจุลินทรีย์โปรไบโอติก ช่วยปรับสมดุลลำไส้ ล้างพิษ ลดพุงป่อง และขจัดไขมันสะสมออกจากร่างกาย วันนี้เราจะมาเปลี่ยนวิธีการกินชีสที่ทำให้คุณอ้วนกันด้วยสูตรนี้ที่ทำให้คุณลดน้ำหนักได้ด้วย 6 สูตรชีสนี้

#การบริโภคชีส(ชีส)คืออะไร?

เมื่อพูดถึงชีส หลายคนนึกถึงโรคอ้วน และคิดว่าการกินชีส (ชีส) ที่มีไขมันอิ่มตัวสูงอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคอ้วนและโรคหัวใจ คอเลสเตอรอลสูง แต่ที่จริงแล้วชีสไม่ได้ส่งผลเสียต่อสุขภาพเสมอไป หากเรากินในปริมาณที่พอเหมาะและเลือกชีสไขมันต่ำที่ดีต่อสุขภาพ ประโยชน์ของชีสทำให้เรากินได้ทุกวัน เป็นแหล่งโปรตีน แคลเซียม โปรไบโอติก หรือแบคทีเรียชั้นดีที่ช่วยให้ลำไส้ของคุณแข็งแรง ส่งเสริมการล้างพิษและอำนวยความสะดวกในการลดน้ำหนัก การศึกษายังพบว่าคนที่กินชีสทุกวันมีโอกาสเกิดโรคหัวใจน้อยกว่าคนที่ไม่กินชีสทุกวัน หรือกินในปริมาณที่ค่อนข้างน้อย เมื่อรู้อย่างนี้แล้ว เราต้องมองการบริโภคชีสเพื่อประโยชน์ต่อสุขภาพในระยะยาว

#เลือกกินชีสอย่างไรให้มีประโยชน์ต่อร่างกาย

ถ้าอยากกินชีสที่ดีต่อร่างกายให้เลือกชีสนุ่มๆ หลีกเลี่ยงชีสแข็ง ชีสที่ดีที่สุดและดีต่อสุขภาพควรเป็นชีสที่ทำสดใหม่ เช่น คอทเทจชีส เนื่องจากชีสนี้มีโปรตีนที่ดีต่อสุขภาพในปริมาณสูง ควรบริโภคในปริมาณน้อย คุณควรปรับสูตรชีสของคุณด้วยโปรตีนที่ดีหรืออาหารที่มีไฟเบอร์สูงและกินทุกครั้ง

#6 สูตรอาหารเช้าวิเศษช่วยล้างพิษและลดน้ำหนัก


การลดน้ำหนักที่ดีต้องออกกำลังกายควบคู่ไปกับอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการ การปรับสมดุลของสารพิษเก่าที่ตกค้างในร่างกายก็มีความสำคัญเช่นกัน เมื่อลำไส้มีความสมดุลและร่างกายว่างเปล่าก็ช่วยลดพุงได้ การกินชีสที่มีกากใยสูง กลายเป็น 6 สูตรลับที่ช่วยต่อสู้กับสารพิษ ลดไขมัน และลดน้ำหนักสำหรับผู้หญิง เห็นผลเร็ว

วันที่ 1 เชอร์รี่ พีช ถั่ว และชีส

อาหารที่มีเส้นใยสูง เช่น เชอร์รี่และลูกพีชเป็นผลไม้ที่ช่วยย่อยอาหาร สมดุลในลำไส้ และถั่วอุดมไปด้วยไฟเบอร์ที่ละลายน้ำได้ เป็นสารอาหารที่ดีที่สนับสนุนการทำงานของโปรไบโอติกในลำไส้ ทำให้เราดึง มันขับของเสียออกจากร่างกายได้ดี

วัตถุดิบ

3 – 5 เชอรี่

ลูกพีชสีเหลือง 3 ถึง 5 ลูก

ถั่วที่ชอบจำนวนเล็กน้อย

ซอฟต์ชีสไขมันต่ำ 1 ถ้วย (สูงสุด 40 กรัม)

กระบวนการ

1. ล้างลูกพีชและเชอร์รี่ให้สะอาด จากนั้นหั่นเป็น 2 ส่วน

2. เตรียมซอฟต์ชีสไขมันต่ำเทลงในถ้วย จากนั้นโรยหน้าด้วยลูกพีชและเชอร์รี่

3. โรยถั่วพร้อมเสิร์ฟ

วันที่ 2 กล้วย เนยถั่ว และชีส

เมนูสำหรับวันที่ 2 ประกอบด้วย กล้วย และถั่วลิสง มีประโยชน์ในการลดคอเลสเตอรอลในเลือด น้ำผึ้งช่วยบำรุงลำไส้ กล้วยยังดีต่อการย่อยอาหารและส่งเสริมการทำงานของจุลินทรีย์โปรไบโอติกในชีส

วัตถุดิบ

กล้วยสุก 1 ลูก

ถั่วลิสงในปริมาณที่เหมาะสม


น้ำผึ้ง 1 -2 ช้อนชา

ซอฟต์ชีสไขมันต่ำ 1 ถ้วย (สูงสุด 40 กรัม)

กระบวนการ

1. หั่นกล้วยเป็นชิ้นๆ

2. เตรียมชีส เทลงในถ้วย จากนั้นประดับด้วยกล้วยสุก ซ้อนให้ดูสวยงาม

3. โรยหน้าด้วยถั่วลิสง แล้วราดน้ำผึ้งเพื่อเพิ่มความหวานตามธรรมชาติ (สามารถใส่ซินนามอนเพิ่มกลิ่นหอมให้ดูน่ารับประทานมากขึ้น)

วันที่ 3 กล้วย ข้าวโอ๊ต และชีส

ข้าวโอ๊ตอุดมไปด้วยเส้นใยที่ละลายน้ำได้ ซึ่งเป็นสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย สามารถดูดซึมเข้าสู่ลำไส้ได้ดี อำนวยความสะดวกในการถ่ายภาพ ช่วยแก้อาการท้องผูกซึ่งเป็นสาเหตุหลักของสารพิษในร่างกาย

วัตถุดิบ

groats

น้ำผึ้งน้อย

กล้วย 1 ลูก

ซอฟต์ชีสไขมันต่ำ 1 ถ้วย (สูงสุด 40 กรัม)

กระบวนการ

1. ผสมข้าวโอ๊ตกับน้ำผึ้งเล็กน้อย จากนั้นอบ 10 นาทีเพื่อให้ข้าวโอ๊ตมีกลิ่นหอมหวานอร่อย

2. หั่นกล้วยสุกเป็นชิ้นๆ วางในถ้วย จากนั้นใส่ข้าวโอ๊ตที่ปรุงแล้วลงไป

3. เทชีสใส่ถ้วยให้สวยงาม

วันที่ 4 กล้วย บลูเบอร์รี่ และชีส

บลูเบอร์รี่มีไฟเบอร์ เซลลูโลส ซึ่งสามารถช่วยแก้อาการท้องผูก และมีแร่ธาตุ วิตามินหลายชนิด รวมทั้งโซเดียม ทองแดง และฟรุกโตส นี้จะช่วยส่งเสริมการย่อยอาหารที่เหมาะสมของระบบย่อยอาหาร ลำไส้จะดูดซึมสารอาหารไปใช้ได้ดีขึ้น

วัตถุดิบ

groats

น้ำผึ้งน้อย

กล้วยสุก 1 ลูก

5 – 7 บลูเบอร์รี่

ซอฟต์ชีสไขมันต่ำ 1 ถ้วย (สูงสุด 40 กรัม)

กระบวนการ

1. ผสมข้าวโอ๊ตกับน้ำผึ้งเล็กน้อย จากนั้นอบ 10 นาทีเพื่อให้ข้าวโอ๊ตมีกลิ่นหอม

2. เทชีสลงในถ้วย

3. หั่นกล้วยสุกเป็นชิ้นๆ จากนั้นใส่ข้าวโอ๊ตที่ปรุงแล้วลงไป

4. ล้างบลูเบอร์รี่ให้สะอาด แล้วผ่าครึ่ง จัดใส่ถ้วยที่เตรียมไว้ ตกแต่งจานให้สวยงาม

วันที่ 5 เชอรี่ ข้าวโอ๊ต และชีส

เชอร์รี่มีไฟเบอร์สูง ซึ่งช่วยปรับปรุงการย่อยอาหาร และลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือด นอกจากนี้ยังส่งเสริมให้จุลินทรีย์โปรไบโอติกในชีสทำงานได้ดี จึงทำให้เราสามารถลดน้ำหนักได้ง่ายขึ้นนั่นเอง

วัตถุดิบ

groats

น้ำผึ้งน้อย

เชอรี่แดง 5 – 7 ลูก


ซอฟต์ชีสไขมันต่ำ 1 ถ้วย (สูงสุด 40 กรัม)

กระบวนการ

1. ผสมข้าวโอ๊ตกับน้ำผึ้งเล็กน้อย อบ 10 นาทีเพื่อให้ข้าวโอ๊ตมีกลิ่นหอม

2. เทชีสลงในถ้วยให้สวยงาม

3. ล้างเชอร์รี่ให้สะอาด จากนั้นผ่าครึ่งผลไม้สด จัดใส่ชามและตกแต่งจานตามใจชอบ

วันที่ 6 องุ่น ลูกพีช ข้าวโอ๊ต และชีส

องุ่นเป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระฟลาโวนอยด์ ยับยั้งการทำงานของเกล็ดเลือดและลดการเกิดลิ่มเลือด ซึ่งถือว่าเป็นประโยชน์กับคนที่เป็นโรคหัวใจและหลอดเลือด รวมทั้งผู้ที่มีโคเลสเตอรอลในเลือดสูงช่วยลดไขมันในร่างกาย ร่วมกับพีชและชีสช่วยปรับสมดุลการทำงานของลำไส้ ช่วยขับสารพิษที่ตกค้างในร่างกายและลดไขมันหน้าท้อง

วัตถุดิบ

groats

น้ำผึ้งน้อย

องุ่น 5 – 7 ลูก

ลูกพีช 3-5 ลูก

ซอฟต์ชีสไขมันต่ำ 1 ถ้วย (สูงสุด 40 กรัม)

กระบวนการ

1. ผสมข้าวโอ๊ตกับน้ำผึ้งในปริมาณที่พอเหมาะ จากนั้นอบประมาณ 10 นาที

2. เทซอฟต์ชีสไขมันต่ำลงในถ้วย

3. ล้างองุ่นและลูกพีชให้สะอาด แล้วหั่นใส่ถ้วยตกแต่งจานให้สวยงามพร้อมรับประทาน

เป็นเมนูอาหารเช้าแสนอร่อยที่เตรียมง่ายมาก ยังมีสุขภาพดีมาก โดยเฉพาะสำหรับคนรักชีส ตอนนี้ไม่ต้องกังวลว่าการกินชีสจะทำให้อ้วน แต่ต้องบริโภคให้ถูกวิธีและปริมาณที่เหมาะสม รับรองสุขภาพดีแน่นอน

#เปลยนการกนชสททำใหอวนเปนเมนททำใหผอมดวย #สตรน

0/5 (0 Reviews)

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น