อัพเดทเทรนด์การออกแบบรอยสักแบบมินิมอล ความสำเร็จด้านแฟชั่นของสาวชิคๆ

อ่าน 9,737

แฟชั่นสาวชิคๆ กับ รอยสักมินิมอล หรือ รอยสักเล็กๆ สำหรับสาวฮิปสเตอร์ที่กำลังมาแรง! เนื่องจากสังคมปัจจุบันเปิดรับการสักมากขึ้น จนถึงตอนนี้ กระแสการสักแบบมินิมอล กลายเป็นอีกแฟชั่นหนึ่งที่สาวไทยและดาราต่างประเทศได้รับความนิยม รอยสักเล็กๆ แบบนี้ “นี่แหละที่จะทำให้คุณดูดี มีบางอย่างให้ค้นหา เหนือสิ่งอื่นใด อย่าทำร้ายตัวเอง ในเวลาสั้นๆ เราจะได้รอยสักเล็กๆ แต่เก๋ไก๋

ลายสักมินิมอล

ลายสักมินิมอล เป็นที่นิยมมากในหมู่วัยรุ่น ชอบเครื่องประดับชั้นดีเพราะเป็นรอยสักที่เล็กแต่แฝงไปด้วยความหมายที่บ่งบอกถึงตัวตนของช่างสัก คนที่รักการสักตามร่างกายมักเลือกลายสักที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวของช่างสักเองที่บ่งบอกถึงคุณค่าและเอกลักษณ์ของช่างสักด้วย

และอย่าลืมว่ามันทันสมัยแค่ไหน รอยสักบนร่างกาย ยังมีข้อจำกัดอยู่บ้าง ในเรื่องการทำงาน เพราะการทำงานในบริษัทหรือราชการ มองว่ารอยสักเป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสมเสมอ คุณควรมองว่ามันเป็นความหลงใหลหรือเพียงแค่ทำตามเทรนด์

สำหรับสาวๆ ที่กำลังคิดจะสักแบบมินิมอล วันนี้เรามี 50 รอยสักเล็กๆ น่ารักๆ ใน 50 สไตล์ให้คุณได้เลือกดู (ลองเลื่อนดูภาพรอยสักด้านล่าง)

รอยสักแบบไหนที่ยากที่สุด?

ผู้ที่มาทำงานเป็นศิลปินสักร่างกายยอมรับว่าการสักที่เหมือนจริงและภาพเหมือนเป็นสิ่งที่ทำได้ยากที่สุด เพราะช่างมักกลัวว่างานศิลปะจะเหมือนกับต้นแบบได้อย่างไร? ไม่ว่าจะเป็นร่างคน สัตว์ หรือสิ่งของ ควรเน้นที่อารมณ์ แสง และเงา เป็นตัวต้นแบบให้สมจริงที่สุด ศิลปินที่รับสักลายแบบนี้ต้องชำนาญการสักมาก หากใครสนใจสักแนวเหมือนจริงหรือแนว Portrait ก็ควรเลือกช่างที่เชี่ยวชาญสักหน่อย ผลงานจะออกมาเป็นที่พอใจของเรา ไม่จำเป็นต้องมีการแก้ไขที่ซับซ้อน


10 เรื่องต้องรู้ ก่อนตัดสินใจสัก

1. ศึกษารูปแบบที่ต้องการ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมจากช่างสัก

2. หาช่างที่มีคุณสมบัติตามสไตล์ของลายที่ต้องการ เพราะช่างสักทุกคนจะมีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านรูปแบบต่างๆ เช่น ศิลปินคนนี้อาจจะเก่งลายดอก ลายเส้นคม สีสวย ฯลฯ ใครหาได้บ้าง ข้อมูลไม่ยาก

3.เตรียมคิดในใจว่าอยากสัก ตำแหน่งของร่างกายอยู่ที่ไหน ในการวางตำแหน่งเราสามารถใช้วิธีการพิมพ์ลวดลายที่ต้องการได้ แล้วนำไปไว้ที่ตำแหน่งที่เราอยากจะสักหรือลองเขียนด้วยปากกาหมึกซักได้

4. ร้านสักบางแห่งไม่รับสักเด็กที่อายุต่ำกว่า 18 ปี เพราะพวกเขายังมีวุฒิภาวะในการตัดสินใจน้อยมาก มันอาจจะเป็นแฟชั่นรอยสักตามคนดัง

5. รอยสักจะอยู่กับคุณไปตลอดชีวิต แม้จะถอดออกแล้วก็ยังเห็นรอยสักจางๆ เลยต้องตัดสินใจให้ดีก่อนจะสัก

6. โดยปกติการสักแล้วเจ็บปวดมาก แต่การสักขั้นต่ำคือรอยสักเล็กๆ ความเจ็บปวดจึงน้อยลง ให้อยู่ในระดับที่พอรับได้ และระดับความเจ็บปวดขึ้นอยู่กับบริเวณที่สัก หากอยู่ตรงกลางหลังหรือซี่โครงด้านข้าง จะเจ็บมากกว่าบริเวณที่ไม่มีกระดูก

7.เรื่องราคา ปกติสักเล็กน้อยเริ่มต้นที่ 500 บาท ไปจนถึงหลายหมื่น ขึ้นอยู่กับขนาดของรอยสัก สีที่ใช้ และฝีมือช่างสัก หากช่างฝีมือมีชื่อเสียง แม้แต่รอยสักเล็กๆ ก็ยังมีราคาแพง เนื่องจากความปราณีตของเส้น การลงสี และฝีมือ พึงรู้ว่าควรเลือกสักกับช่างฝีมือผู้ชำนาญ ไม่ถูกไม่แพง เนื่องจากการลบการออกแบบนั้นเจ็บปวดกว่าการสักใหม่ และจะถูกมองว่าเป็นรอยแผลเป็นที่จะไม่หายไปเลย

8. จรรยาบรรณสำหรับช่างสัก ควรแนะนำการสักให้เหมาะกับลูกค้าแต่ละท่าน และช่างควรจะสามารถพูดคุยเกี่ยวกับความสามารถของช่างเองได้ จะต้องจริงใจและไม่ใช่แบบสักที่คุณไม่ถนัดสำหรับลูกค้า และต้องประพฤติสุภาพและให้เกียรติไม่ล่วงละเมิดลูกค้า กรณีลูกค้าผู้หญิง

9. ระยะเวลาของรอยสักแต่ละครั้งใช้เวลาน้อยมาก รอยสักขนาดเล็ก การออกแบบตัวอักษร จากเวลาเพียง 15 นาที เนื่องจากมีเครื่องมือและอุปกรณ์ที่ทันสมัย ​​สามารถทำได้เร็วขึ้น แต่ถ้าคุณต้องการรอยสักที่ซับซ้อนกว่านี้ก็จะใช้เวลานานกว่าตามลำดับ

10. ข้อสุดท้ายสำคัญมาก ทางร้านที่เราเลือกใช้ควรมั่นใจได้ว่าสะอาดและปลอดภัย

หมายเหตุ: รอยสักเป็นความชอบส่วนบุคคล ดังนั้นควรคิดให้รอบคอบก่อนตัดสินใจสัก ห้ามสักตามแฟชั่นหรือตามดารา ต้องคำนึงถึงผลกระทบต่ออาชีพการงานและชีวิตประจำวันที่สำคัญ

———-

ชนิดไหนทนทาน?

สักที่หลัง หรือแขนจะสักนานแค่ไหนไม่มีใครรู้ ขึ้นอยู่กับความสามารถของช่างสัก เพราะถ้าช่างมีประสบการณ์และเป็นมืออาชีพ ส่วนใดของร่างกายก็สามารถทำให้รอยสักอยู่ได้นานขึ้น นอกจากนี้ สภาพผิวและการดูแลของผู้สักก็สำคัญต่อการสักให้อยู่นาน

5 ขั้นตอนดูแลรอยสักเมื่อสักเสร็จ

ไม่ว่าจะเป็นการสักครั้งแรกหรือเพิ่มการออกแบบใหม่ให้กับรอยสักของคุณ พึงระลึกไว้เสมอว่ารอยสักนั้นเปรียบเสมือนคุณลุง การดูแลรอยสักของคุณตั้งแต่เริ่มต้นจะทำให้การลงทุนของคุณคงทนมากขึ้นทุกครั้ง ซึ่งหมายความว่ารอยสักจะคงอยู่ ดูดีไปนานๆ การดูแลรอยสักหลังทำเสร็จก็สำคัญไม่แพ้กัน กับการเลือกสักและทางเลือกของช่างสัก โดยเฉพาะถ้าคุณไปร้านสักชื่อดัง นอกจากนี้ยังมีช่างสักมืออาชีพ ความเสี่ยงที่จะทำร้ายผิวนั้นแทบไม่มีเลย แต่! ไม่ได้หมายความว่าคุณไม่จำเป็นต้องดูแลรอยสักของคุณ ทุกอย่างจะต้องเป็นปกติ ที่กล่าวว่าการสักเป็นเหมือนการลงทุน ถ้าดูแลไม่ดีก็พัง รอยสักก็เช่นกัน ตอนนี้เป็นเวลาที่จะดูแลรอยสักของคุณ เพียงทำตาม 5 ขั้นตอนง่ายๆ เหล่านี้

1. แกะพลาสติกปิดแผลหลังสัก 1-2 ชม.

2. ล้างรอยสักด้วยน้ำสะอาด หรือน้ำเกลือล้างแผล เพื่อทำความสะอาดคราบเลือดและน้ำเหลือง เน้นว่าขั้นตอนนี้สำคัญมาก อย่าทำความสะอาดรอยสักด้วยสบู่หรือแชมพูหากรอยสักสัมผัสกับสบู่ หรือแชมพูแล้วล้างออกทันที แต่ยังอาบน้ำได้ตามปกติ หลีกเลี่ยงการแช่น้ำเป็นเวลานาน

3. ถูเบา ๆ ด้วยมือของคุณ บริเวณรอยสักที่จะทำความสะอาด และซับน้ำรอบๆ รอยสักให้แห้งสนิท หลังจากอาบน้ำคุณควรเช็ดน้ำในบริเวณที่สักให้แห้งสนิท


4. หลังจากนั้นประมาณ 3-4 วัน รอยสักจะเริ่มตกสะเก็ด ปล่อยให้สะเก็ดแห้งตามธรรมชาติ หากคัน ให้ใช้เบบี้ออยล์สำหรับเด็กทาบริเวณรอยสัก ห้ามลอกหรือขีดข่วนเด็ดขาด!

5. ประมาณ 2 สัปดาห์ สะเก็ดจะลอกออกหมดและปิดหนังกำพร้า ทาโลชั่นบำรุงผิว. คุณสามารถใช้โลชั่นที่คุณใช้เป็นประจำได้ตามปกติ บอกเลยยิ่งผิวยิ่งดีรอยสัก เมื่อรอยสักหายแล้ว ให้หลีกเลี่ยงแสงแดดโดยตรงประมาณ 2 สัปดาห์ แต่ถ้าจะออกไปข้างนอกเป็นเวลานานควรทาครีมกันแดดก่อนออกแดดในแต่ละครั้ง

ป้องกันการติดเชื้อที่รอยสัก

ทุกวันนี้แทบไม่มีโอกาสติดเชื้อจากรอยสักเลย ถ้าเราไปหาช่างสักมืออาชีพ ช่างจะทำความสะอาดบริเวณที่สักก่อนเสมอ พวกเขายังใช้เข็มใหม่สำหรับรอยสักในแต่ละครั้ง แต่อย่าลืมทำตาม 5 ขั้นตอนเหล่านี้ในการดูแลรอยสักของคุณเมื่อทำเสร็จแล้ว

แต่ถ้าบริเวณรอยสักมีการติดเชื้อ เราจะรู้ได้อย่างไร? วิธีสังเกตง่ายๆ หากบริเวณที่สักติดเชื้อจะแดง บวม และเจ็บมากเมื่อสัมผัส (ถ้าดูแลดีสักประมาณ2-3วันจะไม่เจ็บ) หรือความอ่อนแอในบริเวณสักเพิ่มขึ้น แทนที่จะลดลงนั่นเอง! นี่เป็นสัญญาณของการติดเชื้อที่ผิวหนังในบริเวณที่มีรอยสัก แนะนำให้ไปคลีนิคหรือโรงพยาบาลผิวหนังทันทีเพื่อพบแพทย์ผิวหนังจะดีกว่าถ้ารักษาได้อย่างปลอดภัยและทันท่วงที


#อปเดตเทรนดการสกลายแบบมนมอล #แฟชนสดฮตของสาวชค

0/5 (0 Reviews)

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น