อาการของ “ออฟฟิศซินโดรม” คืออะไร? อยากรู้ต้องเช็ค
อ่าน 16,594
เชื่อว่าเด็กๆ นักศึกษา นักศึกษา หรือบัณฑิตใหม่ที่ยังกระฉับกระเฉง การนั่งทำงานที่โต๊ะทำงานสักสองสามเดือนอาจยังไม่รู้สึกถึงอันตรายจาก “ออฟฟิศซินโดรม” แต่ทุกครั้งที่คุณเริ่มทำงานให้หนักขึ้น อยู่หน้าคอมพิวเตอร์มากกว่า 6 ชั่วโมงต่อวัน และเมื่อคุณเข้าใกล้หรือผ่านข้อ 3 อาการจะเริ่มปรากฏอย่างแน่นอน อาการใดจะเป็นสัญญาณเตือนว่าเราต้องไปพบแพทย์? มาดูกัน.
สัญญาณเตือน “ออฟฟิศซินโดรม” 3 ตัว
1. ปวดหลัง ปวดไหล่ ปวดคอ เริ่มเจ็บได้โดยไม่ต้องทำอะไรหนักมาก และอาจเริ่มมีอาการปวดเรื้อรังมากกว่า 1-2 สัปดาห์ เพราะการนั่งเป็นเวลานานโดยไม่ขยับร่างกายหรือนั่งในท่าเดิม หรือเก้าอี้และโต๊ะอาจไม่สมดุลกับร่างกาย
2. ปวดหัวหรือไมเกรนบ่อยขึ้น เนื่องจากความเครียดสะสม สายตาหนัก นอนน้อย พักผ่อนไม่เพียงพอ และตอนนี้ยังไม่ถึงเวลา
3. อาการชา เส้นเอ็นอักเสบ นิ้วล็อค หลังจากพิมพ์บนคอมพิวเตอร์หรือใช้เมาส์กับคอมพิวเตอร์นานเกินไป อาจทำให้กล้ามเนื้อกดทับเส้นประสาทอักเสบของเส้นเอ็นหรือพังผืดรอบนิ้วมือและมือ
อันตรายจากออฟฟิศซินโดรม
1. ความเสี่ยงของหมอนรองกระดูกเคลื่อนเสื่อมหรือหมอนรองกระดูกเคลื่อน ซึ่งอาจร้ายแรงถึงขั้นต้องทำกายภาพบำบัด
2. ความเสี่ยงต่อความผิดปกติของระบบทางเดินหายใจและภูมิแพ้ เนื่องจากบรรยากาศในสำนักงานมักไม่มีการระบายอากาศ รวมทั้งฝุ่นบนพรมเครื่องถ่ายเอกสารต่างๆ
3. โรคอ้วนเนื่องจากการนำอาหารมาที่โต๊ะ หรือจะกินที่ออฟฟิศก็ไม่ค่อยได้เดิน การเผาผลาญพลังงานในแต่ละวันลดลง หากคุณไม่มีเวลาออกกำลังกาย เสี่ยงเป็นโรคอ้วนมากขึ้น
4.เสี่ยงต่อโรคติดต่อ เพราะเมื่อใดก็ตามที่คนรอบข้างป่วย เป็นหวัด หรือมีโรคติดต่อชนิดอื่น หากเรามีภูมิคุ้มกันร่างกายที่ไม่แข็งแรงเพียงพอ ฉันมีสิทธิที่จะติดโรคติดต่อเหล่านี้ได้ง่าย
วิธีหลีกเลี่ยงออฟฟิศซินโดรม
1. ปรับความสูงของเก้าอี้ และโต๊ะนั่งพิมพ์ได้โดยไม่เมื่อยหรือต้องยกแขนสูงเกินไปแล้วคว่ำหน้าลง ความสูงที่เหมาะสมคือเมื่อต้นแขนของคุณราบเรียบในระดับเดียวกับแป้นพิมพ์คอมพิวเตอร์ หรือโต๊ะเก้าอี้ไม่สูงเกินไปหรือต่ำเกินไป ตาของคุณอยู่ห่างจากหน้าจอคอมพิวเตอร์อย่างน้อย 1 ฟุต
2. แขนที่ใช้เมาส์ ควรอยู่ในระดับเดียวกับที่วางแขนของเก้าอี้ เพื่อช่วยพยุงแขนให้อยู่ในระดับใกล้โต๊ะ หรือแป้นพิมพ์คอมพิวเตอร์
3. ลุกจากเก้าอี้ เดินไปเข้าห้องน้ำ หรือเดินไปมาทุกๆ 1-2 ชั่วโมงขณะพักสายตา การมองออกไปนอกหน้าต่างหรือมองดูต้นไม้เขียวขจีก็ช่วยให้หลับตาได้เช่นกัน
4. หากหน้าต่างในสำนักงานสามารถเปิดออกหรือภายในสำนักงานได้ ซึ่งจะช่วยฟอกอากาศในที่ทำงาน โอนสะดวกกว่า
5. พักผ่อนให้เพียงพอ นอน 6-8 ชั่วโมง และนอนให้ตรงเวลามากที่สุด
6.กินอาหารให้ครบ 5 หมู่
7. ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
อย่ารอให้อาการของโรคออฟฟิศซินโดรมปรากฏขึ้นในระยะร้ายแรง เพราะนอกจากจะเสียเวลาจนไม่ได้ทำงานอย่างที่คิด เสียเงินไปหาหมอตลอด เสียเวลาทำกายภาพบำบัดหรือรักษาต่อเนื่อง ขอบอกว่าอาการออฟฟิศไม่เกิดวันหรือสองวัน เราต้องใช้เวลาหลายเดือนและหลายปีกว่าที่อาการจะแสดง ดังนั้นเมื่อหายดีแล้ว นี่ไม่ใช่เวลาที่จะอยู่รอดได้เร็วอย่างที่ใจต้องการอย่างแน่นอน ดูแลสุขภาพให้ดี สุขภาพแข็งแรง ทำงาน ท่องเที่ยว และอยู่กับคนที่คุณรักได้นานขึ้น
#ออฟฟศซนโดรม #อาการเปนยงไง #อยากรตองเชค