ส่วนผสมเครื่องสำอางบำรุงผิวเพื่อหลีกเลี่ยงสาเหตุของการแพ้และความเสียหายของผิวหนัง

อ่าน 11,029

การดูแลผิว เช่น มอยส์เจอไรเซอร์และเมคอัพ เป็นสิ่งที่สัมผัสกับผิวหนังโดยตรง เป็นสาเหตุของผิวเสียในหลายกรณี เช่น สิว อาการแพ้ หรือริ้วรอย ตอนที่ซื้อหลายคนจะเลือกคุณสมบัติ และสามารถละเลยส่วนผสมเครื่องสำอางบำรุงผิวได้ วันนี้เรามีส่วนผสมที่ควรหลีกเลี่ยงเพราะอาจทำให้เกิดอาการแพ้และทำลายผิวได้ ถ้ามีมากเกินไปจะเป็นอะไร?

สารที่ควรหลีกเลี่ยงในผลิตภัณฑ์ดูแลผิวและเครื่องสำอาง


จะมีสารหลากหลายในผลิตภัณฑ์ดูแลผิว เครื่องเล่นบางประเภทมีประโยชน์ แต่ควบคุมปริมาณการเติมได้ เพราะหากใส่มากเกินไปจะทำให้เกิดอาการแพ้หรือสะสมจนเป็นปัญหาผิวหนังได้ หรือแม้แต่มะเร็งผิวหนัง ดังนั้นเรามาสังเกตสารที่ควรหลีกเลี่ยงกันดีกว่า

น้ำหอมและน้ำหอมสังเคราะห์

น้ำหอมก็คือน้ำหอม น้ำหอมเป็นน้ำหอมที่เจือจางและมีน้ำหอมประมาณ 15-18% ถ้าเป็นน้ำหอมธรรมชาติก็ใช้ได้ แต่สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงคือน้ำหอมสังเคราะห์ ประกอบด้วย phthalates ที่ phthalates จะช่วยให้กลิ่นหอมติดทนนาน นำเสนอในน้ำหอมที่ติดทนนานหรือในลิปสติกและยาทาเล็บ

ทาเลตสามารถใช้ในการผลิตพลาสติกที่มีความยืดหยุ่นได้ และยังอยู่ในน้ำหอมสังเคราะห์เพื่อเลียนแบบการทำงานของฮอร์โมนในร่างกาย จะส่งผลต่อการทำงานของฮอร์โมนในร่างกาย เป็นปัจจัยที่เด็กหรือผู้ที่ได้รับสารนี้เป็นเวลานานอาจมีปัญหาเรื่องการสืบพันธุ์ เมื่อซื้อผลิตภัณฑ์ดูแลผิว ตรวจสอบให้แน่ใจว่ามันเป็นน้ำมันหอมระเหย ไม่ใช่น้ำหอมสังเคราะห์

น้ำมันแร่

สำหรับน้ำมันแร่ เรียกชื่อไทยว่า Mineral Oil หรือที่เรียกกันว่า Petroleum Jelly หรือ Petroleum Jelly และน้ำมันแร่ White Oil พาราฟินเหลวเป็นสารชนิดเดียวกัน เป็นไฮโดรคาร์บอนที่ได้จากการสกัดปิโตรเลียม เป็นน้ำมันใส ไม่มีสี และไม่มีกลิ่น ที่ใช้ในผลิตภัณฑ์ดูแลผิว กักเก็บความชุ่มชื้นให้ผิวไม่แห้งกร้าน

แต่เมื่อทาครีมที่มีส่วนผสมของมิเนอรัลออยล์จะเหมือนกับฟิล์มที่ทาลงบนผิว เมื่อใช้เป็นเวลานาน สิ่งสกปรกใต้ผิวหนังจะสะสมตัวตามสิ่งสกปรกที่อุดตันและทำให้เกิดสิว และเมื่อใช้ไปนานๆ ร่างกายจะลดการผลิตความชื้นลง เมื่อคุณหยุดใช้ ผิวของคุณจะแห้ง และสารไฮโดรคาร์บอนสามารถทำให้เกิดการระคายเคือง ผื่นแพ้ และสารก่อมะเร็งได้เมื่อใช้ในปริมาณที่มากเกินไป


พาราเบน

สารต่อไปนี้ พาราเบน หรือ พาราเบน เป็นสารชนิดเดียวกัน เมทิลพาราเบน ไอโซบิวทิลพาราเบน บิวทิลพาราเบน และโพรพิลพาราเบน เป็นสารกันบูดที่สังเคราะห์โดยปฏิกิริยาของแอลกอฮอล์และกรดอินทรีย์ นิยมใช้ในเครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว และแชมพูเพื่อช่วยยืดอายุ

พาราเบนเป็นเหมือนฮอร์โมนเอสโตรเจนที่ร่างกายสามารถดูดซึมและส่งผลต่อการผลิตเอสโตรเจนของร่างกาย หากมีมากเกินไปก็จะไปขัดขวางการแบ่งตัวของเซลล์ในร่างกาย และสารตกค้างในอวัยวะต่าง ๆ ของร่างกายที่อาจก่อให้เกิดมะเร็งได้ อย่างไรก็ตาม พาราเบนสามารถเติมลงในเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์บำรุงผิวได้ที่ 0.25%

DEA, TEA, MEA

DEA ย่อมาจาก Diethanolamine TEA ย่อมาจาก Triethanolamine MEA ย่อมาจาก Monoethanolamine ทั้งสามเป็นสารที่หาได้ง่ายในครีมกันแดด ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวและเครื่องสำอางเช่นมาสคาร่าและลิปสติกเป็นแอมโมเนียสังเคราะห์ ซึ่งจะช่วยลดแรงตึงผิวและบางครั้งก็ช่วยให้เกิดฟองได้

ซึ่ง DEA, TEA, MEA เป็นสารสังเคราะห์ สะสมบนผิวทำให้เกิดความแห้งกร้านและเสื่อมสภาพของผิว โดยเฉพาะครีมบำรุง เช่น ครีมกันแดด โลชั่นบำรุงผิวที่ควรทาโดยตรงกับผิว เมื่อใช้ในปริมาณมากจะมีสารตกค้างมากขึ้นทั้งสามประเภท ก็จะทำให้เสี่ยงเป็นมะเร็งผิวหนังได้ค่ะ

ไฮโดรควิโนน

ไฮโดรควิโนนหรือไฮโดรควิโนนเป็นสารเคมีที่ใช้ทำยาสำหรับผิวหนัง ซึ่งจะช่วยยับยั้งการเปลี่ยนแปลงของสีผิว นิยมใช้ทำครีมหน้าขาวต่างๆ ช่วยลดฝ้ากระและจุดด่างดำได้อย่างรวดเร็ว และสร้างไฮโดรควิโนนที่ออกฤทธิ์เร็วโดยยับยั้งการสร้างเม็ดสีผิวอย่างเมลานิน ก็ทำให้ผิวขาวได้เร็วกว่านั่นเอง

ไฮโดรควิโนน ไม่ควรซื้อใช้เองเนื่องจากมีฤทธิ์ยับยั้งการทำงานของเมลานิน ทำให้ผิวหนังบาง อาจทำให้เกิดการระคายเคืองและผิวแพ้ง่าย นอกจากนี้เมื่อหยุดยากะทันหันผิวจะเข้มขึ้นกว่าเดิม เพราะร่างกายไม่สามารถสร้างเม็ดสีมาทดแทนได้ทันเวลา และเมื่อร่างกายปรับตัวเพื่อผลิตเม็ดสีมากขึ้น ก็จะทำให้มีโอกาสเกิดมะเร็งผิวหนังมากขึ้น การใช้ไฮโดรควิโนนควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์และไม่ควรผสมไฮโดรควิโนนเกิน 3-5%

ไตรโคลซาน

Triclosan หรือ triclosan เป็นสารสังเคราะห์ที่ใช้ยับยั้งแบคทีเรียและสารต้านจุลชีพ นิยมผสมที่ความเข้มข้น 0.10-1.00% สำหรับสบู่ฆ่าเชื้อ น้ำยาบ้วนปากระงับกลิ่นกายและผลิตภัณฑ์ดูแลผิวใช้รักษาสิว และบางยี่ห้อสามารถใช้เป็นส่วนผสมในการฆ่าเชื้อราได้


ผลิตภัณฑ์หลายชนิดยังใช้ไตรโคลซานเป็นส่วนผสม แต่ระวังว่าปริมาณผสมไม่เกินปริมาณที่กำหนด ถ้าใช้ล้างหน้าคือ 0.10-1.00% ถ้าใช้รักษาสิว 0.2-1.0% และถ้าใช้ในเครื่องสำอางไม่ควรเกิน 0.3% เพราะถ้าใช้ Triclosan มากเกินไปจะสะสมและทำให้เกิดอาการแพ้ และการเกิดขึ้นของเชื้อก่อโรคดื้อยา ภูมิคุ้มกันต่ำ และการรักษายังต้องใช้ยาที่ทรงพลังกว่า ดูก่อนซื้อให้ชัวร์

ซัลเฟต

สารประกอบซัลเฟต ซัลเฟตสามารถหาได้จากการสกัดปิโตรเลียมหรือน้ำมันมะพร้าว เป็นโฟมล้างหน้า และขจัดความมัน สิ่งสกปรก ออกจากผิว แต่มี 2 ประเภทที่ควรหลีกเลี่ยงคือ Sodium Lauryl Sulfate (SLS) และ Sodium Laureth Sulfate (SLES) ที่แรงเกินไปอาจทำให้เกิดการระคายเคืองได้แม้จะผสมเพียง 0.3% ทำให้เกิดอาการแพ้แล้ว

ซึ่งซัลเฟตอาจไม่ทำให้ผิวแพ้ง่ายในทันที แต่เมื่อใช้ไปนานๆ ผิวจะบางลง ทำให้ผิวแห้งและระคายเคือง ปัญหาผิวก็จะตามมา เช่น ผิวแพ้ง่าย ผิวคัน และสิวด้วย ดังนั้น ก่อนซื้อผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้า พยายามหาสาร SLS และ SLES เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาผิวแพ้ง่าย

เราได้เห็นแล้วว่าสารแต่ละชนิดทำให้เกิดปัญหาผิวบางชนิด หลังจากนั้น ก่อนซื้อเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ดูแลผิว อย่าลืมพลิกฉลากเพื่อดูส่วนผสมก่อนตัดสินใจซื้อ ผิวจะไม่ถูกทำลายโดยบังเอิญ

#สวนผสมของสกนแครเครองสำอางทควรเลยง #สาเหตของการแพและผวพงได

0/5 (0 Reviews)

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น