รวมประโยชน์ของการฉีดวิตามินเพื่อผิว ได้ผลจริงหรือ? ใครไม่ควรฉีด?

อ่าน 9,014

การมีผิวขาวสุขภาพดีอาจเป็นสิ่งที่หลายคนมองข้ามไม่ได้ เนื่องจากแสงแดดแผดเผาและมลภาวะ ทำให้ผิวแห้งและหมองคล้ำง่าย ทาครีมบำรุงเท่าไหร่ผิวก็ยังพัง แต่การฉีดวิตามินผิวจะช่วยฟื้นฟูผิวที่ถูกทำลาย ให้กลับมาใสชุ่มชื้นอีกครั้ง นี่คือทรีทเม้นท์ผิวที่ได้รับความนิยมอย่างมาก และยังมีสูตรให้เลือกอีกมากมาย เพื่อผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจที่สุด มีวิตามินสูตรอะไรบ้าง? เลือกฉีดสูตรไหนดี? ไปดูกันเลย

สารบัญ

การฉีดวิตามินผิวหนังคืออะไร?

ฉีดวิตามินผิว คือการผลักวิตามิน เช่นเดียวกับวิตามินซี กลูตาไธโอน คอลลาเจนเข้าสู่ผิวทางเส้นเลือด เพื่อให้วิตามินเข้าสู่ร่างกายโดยตรงและสามารถใช้ได้ทันที โดยขั้นตอนนี้ มีชื่อทางการแพทย์ว่า IV Vitamin Therapy หรือ IV Vitamin Drip หรือ IV แปลว่า ทางหลอดเลือดดำ หมายถึง หลอดเลือดดำนั่นเอง

ประโยชน์ของการฉีดวิตามินผิว

  1. ช่วยให้ร่างกายดูดซึมสารอาหารผิวไปใช้ได้ทันที
  2. เห็นผลเร็วและชัดเจนกว่าการทาครีมบำรุง ด้วยการรับประทานวิตามินหลายชนิด
  3. เสริมภูมิต้านทานให้ร่างกาย ลดอาการหวัด ภูมิแพ้ และเสริมสร้างผิวให้แข็งแรง
  4. ช่วยซ่อมแซมเซลล์ร่างกายที่ถูกทำลาย เช่น ผิวหนัง กระดูก และฟัน
  5. ช่วยให้สารต้านอนุมูลอิสระทำงานได้ดีขึ้น ลดอาการเมื่อยล้า ทำให้ร่างกายสดชื่น
  6. กระตุ้นคอลลาเจนทำให้ผิวกระจ่างใสและชุ่มชื้นมากขึ้น

วิตามินผิวเหมาะกับใครบ้าง?

การฉีดวิตามินผิวขาว ทำได้กับทุกคน เพราะวิตามินที่ใช้คือวิตามินที่มีอยู่แล้วในร่างกาย ดังนั้นผู้ที่ต้องการดูแลตัวเองจึงเหมาะที่จะฉีดวิตามินเช่น

  1. เหมาะสำหรับคนที่ไม่มีเวลาดูแลตัวเอง ทำงานหนัก พักผ่อนน้อย
  2. เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ชอบทาครีม ทำให้ผิวคล้ำไม่เงา
  3. เหมาะกับคนที่ทาครีมตัวไหนแล้วไม่เห็นผล ผิวไม่ดูดซับสารอาหารจากการใช้ครีมบำรุง
  4. เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูร่างกาย และสภาพผิวเร่งด่วน
  5. เหมาะสำหรับผู้ที่มีภูมิคุ้มกันอ่อนแอ มีแนวโน้มเป็นหวัด ภูมิแพ้ อ่อนเพลียทางร่างกาย
  6. เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูร่างกายได้เร็วกว่าการทานวิตามิน และอาหารเสริม
  7. เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวแห้งขาดความชุ่มชื้น คนที่ดื่มน้ำน้อยเป็นประจำ

ใครฉีดวิตามินผิวไม่ได้?

  • ผู้ที่เป็นโรคประจำตัว เช่น มะเร็ง เบาหวาน ที่ต้องฉีดอินซูลิน ความผิดปกติของเลือดและความดันโลหิตต่ำ ฯลฯ
  • สตรีมีครรภ์หรือให้นมบุตร
  • ผู้ป่วยที่มีธาตุเหล็กเกิน เนื่องจากวิตามินซีจะทำให้ร่างกายดูดซึมธาตุเหล็กได้มากขึ้น
  • ผู้ที่มีภาวะขาด G6PD
  • ผู้ที่มีประวัติการรับประทานวิตามินหรือยาในรูปแบบการฉีด

สูตรวิตามินที่ได้รับความนิยมมากที่สุดที่ Gangnam Clinic ใช้คืออะไร? แต่ละสูตรต่างกันอย่างไร?

ขอแนะนำ 7 สูตรวิตามินบำรุงผิว ที่ตอบโจทย์สภาพผิวได้ดียิ่งขึ้น

  1. Vital Shard เป็นวิตามินซีรูปแบบเข้มข้น ซึ่งเป็นสูตรพื้นฐานที่จะช่วยปรับสมดุลร่างกายก่อนรับสูตรอื่นๆ ช่วยให้ผิวกระจ่างใส เรียบเนียน และรู้สึกเรียบเนียนอย่างเป็นธรรมชาติ

    เหมาะสำหรับคนไข้ที่ต้องการมีผิวที่เปล่งปลั่งอย่างเป็นธรรมชาติ แต่ใครที่ไม่เคยฉีดผิวมาก่อน

  2. Meso Blink เป็นสูตรฉีดเข้ากล้ามเนื้อโดยไม่ใช้น้ำเกลือ เพื่อผลลัพธ์ผิวกระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ เป็นวิตามินเข้มข้นที่ให้ผลลัพธ์อย่างรวดเร็ว

    เหมาะสำหรับ : เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเห็นผลผิวขาวไว

  3. วิตามิน ไวท์ พลัส เป็นสูตรเข้มข้นในวิตามินที่จะช่วยให้ผิวขาวกระจ่างใส

    เสริมสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกาย และช่วยบำรุงเส้นผมให้แข็งแรงและมีสุขภาพดี ไปด้วยกัน

    เหมาะสำหรับ : เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการปรับผิวให้ขาวอย่างเป็นธรรมชาติ ผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้ มีแนวโน้มที่จะเป็นหวัด และในขณะเดียวกันก็อยากมีผมที่แข็งแรง

  4. ผิวขาวออร่า เป็นสูตรวิตามินที่เน้นผิวขาวไว ด้วยกลูต้าอะซิตินเข้มข้นที่มีเถ้ามากกว่า 200 เท่า ปรับปรุงผิวให้ดูขาวกระจ่างใส และลดการสร้างเม็ดสีเมลานิน ป้องกันสีผิวหมองคล้ำ

    เหมาะสำหรับ : เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการให้ผิวขาว เห็นผลชัดเจนภายใน 7-14 วัน

  5. เอ็กซ์ตร้า ไวท์ พลัส สูตรวิตามินที่ช่วยเร่งการผลัดเซลล์ผิวให้กระจ่างใสและเพิ่มความชุ่มชื่นให้กับผิว เห็นผลเร็ว.

    เหมาะสำหรับ : เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวแห้ง ผิวขาดน้ำ คุณต้องการฟื้นฟูผิวให้ชุ่มชื้นและเปล่งปลั่ง

  6. ความขาวกระจ่างใส เป็นสูตรวิตามินที่จะช่วยลดเลือนริ้วรอยของผิว ช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยใหม่ ช่วยเติมน้ำให้ผิวชุ่มชื่นและปรับสภาพผิวให้กระจ่างใส

    เหมาะสำหรับ : เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวเหี่ยวย่น ผิวขาดน้ำ ที่ต้องการให้ผิวชุ่มชื้น เปล่งปลั่ง มีออร่าอีกครั้ง

  7. ค็อกเทลนางฟ้า เป็นสูตรวิตามินรวมเข้มข้น ประกอบด้วยกลุ่มวิตามินที่ช่วยเสริมภูมิต้านทานในยุคโควิด และช่วยทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งมีสุขภาพไปพร้อม ๆ กัน

    เหมาะสำหรับ : เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการมีผิวสวยพร้อมรักสุขภาพ

วิตามินผิวฉีดที่ไหน?

การฉีดวิตามินทางผิวหนังมีสองประเภทขึ้นอยู่กับสูตรวิตามินที่ใช้:

  1. เสริมวิตามินผิวทางเส้นเลือด
  2. การเสริมวิตามินผิวจะถูกฉีดเข้าสู่กล้ามเนื้อโดยตรง

ฉีดวิตามินผิว ขาวขึ้นจริงหรือ? ฉีดกี่ครั้งถึงเห็นผล?

การฉีดวิตามินผิว เป็นการช่วยเพิ่มสารอาหารให้กับผิวหรือวิตามินที่จำเป็นต่อร่างกาย เพื่อช่วยฟื้นฟูและปรับผิวให้ขาวกระจ่างใสจากภายในสู่ภายนอก คุณจะเห็นผลภายใน 7-14 วันหลังจากใช้ครั้งแรก

ควรฉีดวิตามินผิวบ่อยแค่ไหน?

ในช่วงเดือนแรกแนะนำให้ฉีดทุกสัปดาห์ และหลังจากนั้นเว้นระยะการฉีดทุก 2 สัปดาห์ เพื่อรักษาสภาพผิวที่ดีและให้ผลการรักษาชัดเจนขึ้น

หลังฉีดวิตามินกี่วันถึงจะเริ่มเห็นผล?

หลังจากฉีดวิตามิน ผิวจะเริ่มรู้สึกนุ่มนวลและเรียบเนียนขึ้นภายใน 3-5 วัน และจะเห็นผลเต็มที่ภายใน 7-14 วัน

การฉีดวิตามินทำร้ายผิวของคุณหรือไม่?

การฉีดวิตามินผิวหนังจะทำให้คุณปวดเล็กน้อยเมื่อเดิน เป็นความเจ็บปวดที่สามารถทนได้สบาย เพื่อเปรียบเทียบกับความงามที่รอคอย

หากคุณหยุดฉีดวิตามินผิว ผิวจะฟื้นคืนความหมองคล้ำหรือไม่?

การหยุดฉีดวิตามินผิว ไม่ทำให้ผิวหมองคล้ำหากไม่มีสิ่งกระตุ้นหรือทำร้ายผิว เช่น แสงแดด มลภาวะ (การหยุดฉีดวิตามินก็เหมือนการหยุดการดูแลผิว)

ฉีดวิตามินผิว ฉีดเมโส หน้าใส ต่างกันยังไง

การฉีดวิตามินผิวและการฉีดเมโสเทอราปีสามารถมีคุณประโยชน์ที่คล้ายคลึงกันในการดูแลผิวคือการช่วยให้ผิวขาวขึ้น ลดเลือนริ้วรอย หลุมสิว และจุดด่างดำได้อีกด้วย แต่การฉีดวิตามินผิวเป็นขั้นตอนการฉีดวิตามินเข้าเส้นเลือดโดยตรงเพื่อช่วยปรับโทนสีผิวให้สว่างขึ้นทั่วร่างกาย ส่วนหนึ่งของการฉีดเมโสเทอราปี ใช้ยาที่กระตุ้นคอลลาเจนและวิตามินที่สำคัญสำหรับผิว ฉีดให้ทั่วใบหน้าเพื่อให้วิตามินที่เป็นประโยชน์ซึมเข้าสู่ผิว ฉีดเมโสเทอราพีบำรุงผิวหน้าเท่านั้น

หลังจากฉีดวิตามินผิวแล้วผลลัพธ์จะอยู่ได้นานแค่ไหน?

ผลของการฉีดเข้าทางผิวหนังจะอยู่ได้ประมาณ 1-2 เดือน เนื่องจากสารอาหารและวิตามินจะถูกดึงเข้าสู่ร่างกายจนกว่าจะหมดฤทธิ์ แนะนำให้ฉีดวิตามินเพื่อบำรุงอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานขึ้น

ผิวสามารถสัมผัสกับแสงแดดหลังฉีดวิตามินได้หรือไม่?

ควรหลีกเลี่ยงแสงแดดโดยตรงหลังจากฉีดวิตามินทางผิวหนัง แนะนำให้ทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF 50 ขึ้นไปก่อนออกจากบ้านทุกครั้ง เพื่อป้องกันไม่ให้ผิวถูกแสงแดดทำร้าย

เตรียมฉีดวิตามินผิว

  1. พักผ่อนให้เพียงพอและดื่มน้ำสะอาดมาก ๆ ก่อนฉีดผิวหนัง
  2. หากคุณมีโรคประจำตัวหรือมีประวัติแพ้ยา ต้องแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนทำหัตถการ
  3. พบแพทย์เพื่อประเมินสภาพผิวของคุณ เพื่อให้ได้สูตรวิตามินที่เหมาะสมและปลอดภัย

พฤติกรรมหลังการฉีดวิตามินเข้าผิวหนัง

  1. งดแอลกอฮอล์และงดสูบบุหรี่ เพราะอาจมีสารที่ทำลายวิตามิน ได้จากการฉีดวิตามินทางผิวหนัง
  2. หลังจากฉีดวิตามิน แนะนำให้ดื่มน้ำสะอาดอย่างน้อยวันละ 2 ลิตร เพื่อให้ผิวชุ่มชื้น
  3. ทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF 50 ก่อนออกจากบ้านเสมอ
  4. ใช้ครีมบำรุงที่มี AHA (Alpha Hydroxy Acid) หรือ PHA (Poly Hydroxy Acid)
  5. เพื่อช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าและสร้างเซลล์ใหม่ที่แข็งแรงขึ้น
  6. หลีกเลี่ยงการเช็ดถูหรือขีดข่วนบริเวณที่ฉีด เพื่อป้องกันการอักเสบ
  7. หากมีอาการบวมและช้ำที่เกิดจากเข็ม สามารถใช้ประคบเย็นบรรเทาอาการได้

เลือกคลินิกฉีดวิตามินผิวอย่างไรให้ปลอดภัย ?

  1. ควรค้นคว้าหาคลินิกที่น่าเชื่อถือพร้อมรีวิวและสอบถามข้อมูลจนมั่นใจก่อนตัดสินใจ
  2. แพทย์ต้องมีความสามารถ มีประสบการณ์ มีชื่อเสียง และมีรีวิวจากคนไข้จริงบนเว็บ
  3. อย่าหลงกลโฆษณาหรือโปรโมชั่นราคาถูกเพราะอาจทำให้ขาดวิตามินที่ไม่ได้มาตรฐานและทำให้มองไม่เห็น
  4. แพทย์และแพทย์ทุกคนที่ทำหัตถการต้องมีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ
  5. คลินิกควรมีช่องทางการติดต่อหลายช่องทาง ทั้ง Facebook, Instagram, เว็บไซต์, Line@ และสามารถติดต่อได้ง่าย
  6. คลินิกต้องเปิดอย่างถูกกฎหมายและได้รับอนุญาตให้ดำเนินการได้

มีผลชัดเจนหรือไม่? ต้องเตรียมตัวอย่างไร?

การฉีดวิตามินผิวเป็นการฟื้นฟูผิวอย่างล้ำลึก จากภายในสู่ภายนอกสามารถเห็นผลได้ชัดเจนและรวดเร็ว เพราะร่างกายสามารถดูดซึมสารอาหารและวิตามินใช้ได้ทันทีโดยไม่ต้องผ่านกระบวนการอื่นๆ ของร่างกาย จึงทำให้เป็นวิธีการรักษาผิวที่ได้รับความนิยมอย่างมาก บังคับหลายที่จัดโปรโมชั่นถูกอย่างไม่น่าเชื่อเพื่อดึงดูดลูกค้า แต่อย่าเห็นแก่ตัวจนลืมคุณภาพ วิตามินที่ได้มาตรฐาน ถูกกว่าท้องตลาดไม่ได้

ขอบคุณสำหรับข้อมูล :

#รวมขอดฉดวตามนผว #ไดผลจรงมย #ใครบางไมควรฉด

0/5 (0 Reviews)

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น