เนื้อหาของบทความนี้จะพูดถึงสก๊อต น้ํา มัน ตับ ปลา หากคุณต้องการเรียนรู้เกี่ยวกับสก๊อต น้ํา มัน ตับ ปลามาสำรวจกันกับBirth You In Loveในหัวข้อสก๊อต น้ํา มัน ตับ ปลาในโพสต์ชัวร์ก่อนแชร์ FACTSHEET : น้ำมันปลา และ น้ำมันตับปลานี้.

สรุปเนื้อหาที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับสก๊อต น้ํา มัน ตับ ปลาในชัวร์ก่อนแชร์ FACTSHEET : น้ำมันปลา และ น้ำมันตับปลาล่าสุด

ดูตอนนี้วิดีโอด้านล่าง

ที่เว็บไซต์birthyouinlove.comคุณสามารถเพิ่มเนื้อหาอื่นที่ไม่ใช่สก๊อต น้ํา มัน ตับ ปลาเพื่อรับความรู้เพิ่มคุณค่าให้กับคุณ ที่เพจBirth You In Love เราอัปเดตข้อมูลใหม่ ๆ ที่ถูกต้องให้คุณทุกวัน, ด้วยความปรารถนาที่จะให้บริการข่าวที่ดีที่สุดสำหรับคุณ ช่วยให้คุณเพิ่มข้อมูลออนไลน์ได้อย่างแม่นยำที่สุด.

หัวข้อที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อสก๊อต น้ํา มัน ตับ ปลา

3 ส.ค. 65 – บนโซเชียลมีคำถามเกี่ยวกับการรับประทานน้ำมันปลาและน้ำมันตับปลา รวมถึงประโยชน์ และข้อควรระวัง ติดตามข้อเท็จจริงและคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญกับคุณพีรพล อนุตรโสตถิ์ จากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ สถาบันโภชนาการ ม.มหิดล สัมภาษณ์เมื่อ 31 พ.ค. 2565 🔎 ตรวจสอบข้อเท็จจริง โดย พีรพล อนุตรโสตถิ์ ——————————— — —————— 📌 สรุป : ✅ ชัวร์ แชร์ได้ #ชัวร์แอนด์แชร์ ———————————————— —– 🎯 ได้อะไรอย่าแชร์ต่อ ส่งมาเช็ค “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์” 🎯 LINE | @SureAndShare หรือคลิก FB | ทวิตเตอร์ | ไอจี | เว็บไซต์ | ติ๊กต๊อก |

ภาพบางส่วนที่เกี่ยวข้องกับเอกสารเกี่ยวกับสก๊อต น้ํา มัน ตับ ปลา

ชัวร์ก่อนแชร์ FACTSHEET : น้ำมันปลา และ น้ำมันตับปลา
ชัวร์ก่อนแชร์ FACTSHEET : น้ำมันปลา และ น้ำมันตับปลา

นอกจากการดูข้อมูลเกี่ยวกับบทความนี้แล้ว ชัวร์ก่อนแชร์ FACTSHEET : น้ำมันปลา และ น้ำมันตับปลา คุณสามารถอ่านบทความเพิ่มเติมด้านล่าง

คลิกที่นี่เพื่อดูข้อมูลใหม่

ข้อเสนอแนะบางประการเกี่ยวกับสก๊อต น้ํา มัน ตับ ปลา

#ชวรกอนแชร #FACTSHEET #นำมนปลา #และ #นำมนตบปลา.

ชัวร์ก่อนแชร์,sure and share,mcot,factsheet,fact,fact check,น้ำมันปลา,น้ำมันตับปลา.

ชัวร์ก่อนแชร์ FACTSHEET : น้ำมันปลา และ น้ำมันตับปลา.

สก๊อต น้ํา มัน ตับ ปลา.

หวังว่าบางค่าที่เราให้ไว้จะเป็นประโยชน์กับคุณ ขอบคุณมากสำหรับการติดตามเนื้อหาสก๊อต น้ํา มัน ตับ ปลาของเรา

0/5 (0 Reviews)

5 thoughts on “ชัวร์ก่อนแชร์ FACTSHEET : น้ำมันปลา และ น้ำมันตับปลา | ปรับปรุงใหม่สก๊อต น้ํา มัน ตับ ปลาเนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

  1. DR. Kor says:

    เวลากินนี่กินเหมือนยาปกติเลยไหมครับ คือการกินกับน้ำเเล้วกลืนไปเลย

  2. Pramuan Chutham says:

    เฉพาะผู้ที่ทานยาละลายลิ่มเลือด วาฟาริน ที่ไม่ควรเสริมด้วยน้ำมันปลา เพราะจะยิ่งทำให้เลือดใส…คนส่วนใหญ่ต้องการDHAไปบำรุงสมองและดวงตา ที่มีไขมันเป็นส่วนประกอบถึง60% และเป็น DHA 10-20%ของไขมันทั้งหมด รวมEPAวันละ 1.6กรัม(ชาย) และ 1.2กรัม(หญิง)

  3. Pramuan Chutham says:

    มีคนพยายามจะสอบถาม ปลาไทย ซึ่งส่วนใหญ่ไม่ใช่ปลาไขมันสูง อย่างปลาที่พบในทะเลเขตหนาว(จัด) ปริมาณโอเมก้า-3 เทียบกันไม่ได้(น้อยกว่าเป็นสิบเท่า) น้ำมันปลา(เม็ดละบาท)จึงมักทำจากปลาแซลมอน(100กรัม มีโอเมก้า-3 2.34กรัม)และแม็คเคอเรล แทนการทานปลาจาระเม็ดขาว(100กรัม มี โอเมก้า-3 ราว 840มิลลิกรัมเท่านั้น)หนือ ปลาทู(0.22กรัม)
    ส่วนโอเมก้า-3ในพืช เป็นกรดALA-Alpha Linolenic Acid…เปลี่ยนมาเป็น EPA และDHA ได้แค่ 10% จึงไม่คุ้มที่จะทานแทนน้ำมันปลา
    ขนาดปลาทูน่าที่พบในทะเลลึกและน้ำเย็นจัด ยังมีไขมันน้อยกว่าปลาแซลมอนมาก จึงไม่นำมาทำน้ำมันปลา แต่เอาไปทานเนื้อที่แน่น เอารสสัมผัส

  4. Pramuan Chutham says:

    ผู้สูงอายุ มักจะมีเลือดหนืด เพราะมีสารตกค้าง เช่นไฟบรินที่หมดสภาพแล้วแต่ยังไม่ถูกกำจัด…การทานEPAเพื่อลดการเกาะกันของเกล็ดเลือด(anti-sticking platelet)จึงช่วยลดความเสี่ยงจากหัวใจวายฉับพลัน คล้ายแอสไพริน แต่ไม่กัดหลอดเลือดจนแตก(stroke, internal bleeding)เหมือนยาแอสไพรินที่เป็นกรดอย่างแรง
    วิทยากรคงทานปลาแซลมอนสัปดาห์ละ 3-4ครั้ง ถึงได้โอเมก้า-3พอ ข้อแนะนำ DHAสำหรับสมอง คือวันละ 700-1000ม.ก. ส่วนEPA ราววันละ500ม.ก.เพื่อรักษาหลอดเลือดให้สะอาด ปราศจากไขมันพอกเกาะ
    ปลาแซลมอน แม็คเคอเรล ซาร์ดีน ถึงจะมีไขมันพอให้โอเมก้า-3 ปลาทูน่าเป็นปลาเนื้อแน่นและไขมันน้อยกว่ามาก และยังมีเซเลเนี่ยมที่ช่วยดูดซับสารปรอท(ในน้ำทะเล)น้อยกว่าด้วย

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น