หัวข้อของบทความนี้จะเกี่ยวกับภูมิ แปลว่า หากคุณต้องการเรียนรู้เกี่ยวกับภูมิ แปลว่ามาถอดรหัสหัวข้อภูมิ แปลว่ากับBirthYouInLoveในโพสต์คลิกใจให้ธรรม_พุทธภูมิ (พระอาจารย์กฤช นิมฺมโล) T.205 13/12/63นี้.

สังเคราะห์เอกสารที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับภูมิ แปลว่าในคลิกใจให้ธรรม_พุทธภูมิ (พระอาจารย์กฤช นิมฺมโล) T.205 13/12/63ที่สมบูรณ์ที่สุด

ดูตอนนี้วิดีโอด้านล่าง

ที่เว็บไซต์birthyouinlove.comคุณสามารถเพิ่มเนื้อหาอื่นที่ไม่ใช่ภูมิ แปลว่าเพื่อความรู้ที่เป็นประโยชน์มากขึ้นสำหรับคุณ ในหน้าBirthYouInLove เราอัพเดทข่าวใหม่และแม่นยำทุกวันสำหรับคุณ, ด้วยความตั้งใจที่จะให้บริการข้อมูลที่ดีที่สุดสำหรับคุณ ช่วยให้ผู้ใช้บันทึกข้อมูลออนไลน์ได้อย่างสมบูรณ์ที่สุด.

ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับหมวดหมู่ภูมิ แปลว่า

รายการ ใจพระธรรมในมือ ทาง MVTV ออกอากาศทุกวันอาทิตย์ เวลา 06.30-07.30 น. นาฬิกากล่องรับสัญญาณ จานดำ C-BAND กด 112 จานเล็ก KU-BAND กด 112 /Set-top box PSI 112 /กล่อง รับสัญญาณ : Infosat 102,112 / Set-top box : GMMz 102,112 / Set-top box : IPM 102,112,181 และเคเบิลทีวีไทยทั่วประเทศ Facebook live : Five Channel HD ติดตามความเคลื่อนไหวของรายการทางแฟนเพจ Line OA : @clickjai โปรแกรมดำเนินการโดย M : สฤษดิ์ อธิศิลป์ #พุทธภูมิ

ภาพที่เกี่ยวข้องกับเอกสารเกี่ยวกับภูมิ แปลว่า

คลิกใจให้ธรรม_พุทธภูมิ (พระอาจารย์กฤช นิมฺมโล) T.205  13/12/63
คลิกใจให้ธรรม_พุทธภูมิ (พระอาจารย์กฤช นิมฺมโล) T.205 13/12/63

นอกจากการอ่านเนื้อหาของบทความนี้แล้ว คลิกใจให้ธรรม_พุทธภูมิ (พระอาจารย์กฤช นิมฺมโล) T.205 13/12/63 สามารถดูและอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ด้านล่าง

คลิกที่นี่

เนื้อหาเกี่ยวกับภูมิ แปลว่า

#คลกใจใหธรรมพทธภม #พระอาจารยกฤช #นมมโล #T205.

คลิกใจให้ธรรม,พระอาจารย์กฤช,หลวงพ่อปราโมทย์,บทสวดมนต์,ฟังธรรมก่อนนอน,หลวงพ่อชา,สมเด็จโต,พระพุทธเจ้า,สายพระป่า,เสียงสวดมนต์,บทอิติปิโส,หลวงปู่ดู่,พุทธภูมิ,ลาพุทธภูมิ.

คลิกใจให้ธรรม_พุทธภูมิ (พระอาจารย์กฤช นิมฺมโล) T.205 13/12/63.

ภูมิ แปลว่า.

หวังว่าค่านิยมบางอย่างที่เรามอบให้จะเป็นประโยชน์กับคุณ ขอบคุณมากสำหรับการติดตามภูมิ แปลว่าข่าวของเรา

0/5 (0 Reviews)

30 thoughts on “คลิกใจให้ธรรม_พุทธภูมิ (พระอาจารย์กฤช นิมฺมโล) T.205 13/12/63 | ข้อมูลทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับภูมิ แปลว่าที่สมบูรณ์ที่สุด

  1. KV27 says:

    พระเจ้าอุทุมพร(ขุนหลวงหาวัด)พระมหากษัตริย์ในสมัยปลายกรุงศรีอยุธยาก็น่าจะเป็นพระโพธิสัตว์ไหมครับ พระองค์เสด็จออกบวชถึง2ครั้ง โดยครั้งสุดท้ายอยู่ในผ้ากาสาวพัสตร์ตราบจนเสด็จสวรรคต

  2. Still Fresh says:

    ♤ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้ง 3 ประเภท
    คือ พระปัญญาธิกพุทธเจ้า พระสัทธาธิกพุทธเจ้า และพระวิริยาธิกพุทธเจ้า ♤

    ในสมัยที่พระองค์เป็นพระโพธิสัตว์ พระองค์สร้างบารมีต่างกันอย่างไร?

    มีอุปมา…เหมือนดอกอุบลในกออุบล ดอกปทุมในกอปทุม หรือดอกบุณฑริกในกอบุณฑริก ที่เกิดแล้วในน้ำ เจริญแล้วในน้ำ งอกงามแล้วในน้ำ 

    1) บางเหล่ายังจมในน้ำ อันน้ำเลี้ยงไว้
    2) บางเหล่าตั้งอยู่เสมอน้ำ(บัวปริ่มน้ำ)
    3) บางเหล่าตั้งอยู่พ้นน้ำ อันน้ำไม่ติดแล้ว.

    พระสัมมาสัมพุทธเจ้าประเภทที่1.
    ในสมัยที่พระองค์ยังเป็นพระโพธิสัตว์ "ทรงปรารถนาที่จะตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าให้ได้เร็วๆ เพื่อที่จะนำพาสรรพสัตว์ให้หลุดพ้นจากกิเลสอาสวะข้ามพ้นวัฏสงสารและเข้าถึงนิพพานให้ได้เร็วที่สุด"
    พระองค์สั่งสมบารมี 30 ทัศ พร้อมกับเคี่ยวเข็ญบุคคลที่เปรียบเสมือน"บัวพ้นน้ำ"
    คือขนเอาเฉพาะคนมีปัญญามากไปก่อน

    เพราะเหตุนี้จึงได้ชื่อว่า "อุคฆติตัญญูโพธิสัตว์"
    และเมื่อบารมีของพระองค์เต็มเปี่ยมบริบูรณ์ ก็จะได้ตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ประเภท"ปัญญาธิกะ"

    ใช้เวลาในการสร้างบารมีและเคี่ยวเข็ญสรรพสัตว์ "20 อสงไขยกับอีกแสนมหากัป" จึงขนสรรพสัตว์เข้านิพพานและไปสู่สุคติได้มากในระดับหนึ่ง แต่ยังมีลัทธิและความเชื่ออื่นอยู่มากในขณะที่พระองค์ทรงตรัสรู้และเผยแผ่พระศาสนา เช่นในสมัยของพระสมณโคดมสัมมาสัมพุทธเจ้า

    พระสัมมาสัมพุทธเจ้าประเภทที่ 2.
    ในสมัยที่ยังเป็นพระโพธิสัตว์ "ทรงปรารถนาที่จะขนสรรพสัตว์เข้านิพพานให้ได้มากๆ"
    พระองค์สั่งสมบารมี 30 ทัศ พร้อมกับเคี่ยวเข็ญบุคคล 2 ประเภทคือ
    1.เคี่ยวเข็ญคนที่มีปัญญามาก ซึ่งเปรียบเสมือน"บัวพ้นน้ำ"
    2.เคี่ยวเข็ญคนที่เปรียบเสมือน "บัวปริ่มน้ำ" คนเหล่านี้มีพื้นฐานของความศรัทธาอยู่แล้วพอประมาณ(ศรัทธาคือความเชื่อที่ประกอบด้วยปัญญา) พระโพธิสัตว์จึงส่งเสริมเพิ่มพูนศรัทธาแก่คนเหล่านี้ให้มากขึ้นๆ… จนกระทั่งสั่งสมบ่มบารมีได้แก่รอบ

    เพราะเหตุนี้จึงได้ชื่อว่า "วิปจิตัญญูโพธิสัตว์ "
    และเมื่อบารมีของพระองค์เต็มเปี่ยมบริบูรณ์ ก็จะได้ตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ประเภท"สัทธาธิกะ"

    ใช้เวลาในการสร้างบารมีและเคี่ยวเข็ญสรรพสัตว์ "40 อสงไขยกับอีกแสนมหากัป" จึงมีผู้ตรัสรู้ตามและมีผู้ไปสู่สุคติได้มากขึ้นกว่าพระปัญญาธิกพุทธเจ้า…แต่ก็ยังมีลัทธิและความเชื่ออื่นอยู่อีกบ้างพอสมควรในขณะที่พระองค์ตรัสรู้และเผยแผ่พระศาสนา เช่น พระกกุสันโธสัมมาสัมพุทธเจ้า พระโกนาคมสัมมาสัมพุทธเจ้า และพระกัสสปสัมมาสัมพุทธเจ้า

    พระสัมมาสัมพุทธเจ้าประเภทที่ 3.
    ในสมัยที่ยังเป็นพระโพธิสัตว์ "ทรงปรารถนาที่จะขนสรรพสัตว์เข้านิพพานให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้"
    พระองค์สั่งสมบารมี 30 ทัศ พร้อมกับเคี่ยวเข็ญบุคคลทั้ง 3 ประเภท คือ
    1.เคี่ยวเข็ญคนที่มี"ปัญญามาก"
    2.เคี่ยวเข็ญคนที่มี"ศรัทธาพอประมาณ"(ศรัทธาคือความเชื่อที่ประกอบด้วยปัญญา)
    3.เคี่ยวเข็ญคนที่มี…ปัญญาและศรัทธาน้อยนิด… "เปรียบเสมือนบัวที่ยังจมอยู่ในน้ำ" พระโพธิสัตว์ต้องใช้ความเพียรพยายาม ใช้ความวิริยะอุตสาหะ อย่างมากมายมหาศาล ในการทำหน้าที่กัลยาณมิตรให้แก่บุคคลเหล่านี้..

    เพราะเหตุนี้จึงได้ชื่อว่า "เนยยโพธิสัตว์"
    และเมื่อบารมีของพระองค์เต็มเปี่ยมบริบูรณ์ ก็จะได้ตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ประเภท"วิริยาธิกะ"

    ใช้เวลาในการสร้างบารมีและเคี่ยวเข็ญสรรพสัตว์ "80 อสงไขยกับอีกแสนมหากัป" จึงมีสาวกตรัสรู้ตามได้มาก และไปสู่สุคติเป็นจำนวนมาก…
    เนื่องจากพระองค์โปรดคนได้ทุกประเภท จึงไม่มีลัทธิหรือความเชื่ออื่นเลย ในขณะที่พระองค์ตรัสรู้และเผยแผ่พระศาสนา
    เช่น พระศรีอริยเมตไตรยสัมมาสัมพุทธเจ้า

    พระปัญญาธิกพุทธเจ้า เป็นพระบรมครูได้เร็วที่สุด มีพระวรกายเล็กกว่า พระชนมายุน้อยกว่า มีสัตว์ผู้ตรัสรู้ตามน้อยกว่า พระพุทธเจ้าประเภทอื่น

    พระสัทธาธิกพุทธเจ้า มีพระวรกายใหญ่ขึ้น พระชนมายุยืนยาวขึ้น มีสัตว์ผู้ตรัสรู้ตามมากขึ้นกว่าพระปัญญาธิกพุทธเจ้า

    พระวิริยาธิกพุทธเจ้า มีพระวรกายสูงใหญ่ พระชนมายุยืนยาว มีสัตว์ผู้ตรัสรู้ตามได้มากที่สุด

    ☆ แต่ความเป็นพระพุทธเจ้า เสมอกันทุกพระองค์ คือ ทรงมีพระสัพพัญญุตญาณ และทรงถึงพร้อมด้วย พระปัญญาธิคุณ พระบริสุทธิคุณ พระมหากรุณาธิคุณ

    ( https://youtu.be/U6KsPpvIKfI อสงไขย )

  3. Still Fresh says:

    ☆ ตลอดระยะเวลาในการสร้างบารมีของพระบรมโพธิสัตว์ ทุกพระองค์ ทุกประเภท

    ท่านต้องใช้ปัญญาอย่างมากมายมหาศาล
    (ปัญญาน้อย…สร้างบารมีเพื่อเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไม่ได้)

    ท่านต้องใช้ศรัทธาอย่างมากมายมหาศาล
    (ศรัทธาน้อย…สร้างบารมีเพื่อเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไม่ได้)

    ท่านต้องใช้วิริยะอย่างมากมายมหาศาล
    (วิริยะน้อย…สร้างบารมีเพื่อเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไม่ได้)

    ปัญญาธิกโพธิสัตว์ จะสามารถเป็นพระบรมครู ช่วยเหลือสรรพสัตว์ได้ "เร็วที่สุด"

    สัทธาธิกโพธิสัตว์ จะสามารถเป็นพระบรมครูได้ "เร็วปานกลาง" ช่วยเหลือสรรพสัตว์ได้ "มากปานกลาง"

    วิริยาธิกโพธิสัตว์ จะสามารถเป็นพระบรมครู ช่วยเหลือสรรพสัตว์ได้ "มากที่สุด"

    การช่วยเหลือสรรพสัตว์ ให้พ้นจากภัยในสังสารวัฏนั้น
    "ช่วยเหลือให้ได้เร็วๆก็เป็นเรื่องสำคัญ(ระยะเวลา)
    ช่วยเหลือให้ได้มากๆก็เป็นเรื่องสำคัญ(ปริมาณ)"
    เพราะฉะนั้น จึงขึ้นอยู่ที่ว่า พระบรมโพธิสัตว์จะเลือกแบบไหน

    ทั้งหมดนี้ขึ้นอยู่ที่ความปรารถนาของพระองค์
    จึงไม่ใช่สิ่งที่จะนำมาเปรียบเทียบกันได้ว่า พระโพธิสัตว์ประเภทไหนเหนือกว่ากัน
    หรือพระสัมมาสัมพุทธเจ้าประเภทไหนเหนือกว่ากัน

    ☆ เพราะทุกพระองค์ มีพระคุณอันไม่มีประมาณต่อสัตว์โลก

  4. T says:

    ขอบคุณที่ทำรายการนี้ขึ้นมาคะได้ความรู้เรื่องธรรมเยอะมากเลยเข้าใจง่ายและเพลินฟังได้ตลอด

  5. สิริภัทร says:

    ขอพระสยามเทวาธิราช องค์พระแก้วมรกต ศักดิ์สิทธิ์ คุ้มภัยให้ ทั่วโลก รอดพ้น ปลอดภัย จากโควิค สาธุๆๆ

  6. สุชาดา ศัพทศรีครินทร์ says:

    น้อมกราบนมัสการท่านพระอาจารย์
    กฤชค่ะสาธุ
    สวัสดีท่านผู้ดำเนินรายการค่ะ… คลิปนี้ได้ยินเสียงฟ้าร้องดังมากและเสียงฝนตกด้วยค่ะ
    กราบขอบคุณท่านพระอาจารย์กฤชที่มี
    เมตตาสอนเรื่องให้มีการตั้งมั่นในการปฏิบัติดีปฏิบัติชอบตามแบบอย่างพระ
    โพธิสัตย์กวนอิมค่ะ….. และกล่าวถึงเมื่อชาติก่อนก่อนที่หลวงปู่มั่นท่านจะมา
    สำเร็จเป็นหลวงปู่มั่นและพูดเรื่องวัฏฏะฟังแล้วจะได้มุมคิดในการปฏิบัติขึ้นมากค่ะ… คุณเอ็มช่วยไข.. ถาม.ปัญหาธรรมเป็นคุณประโยชน์ที่ดีมากต่อสาธารณะค่ะขอบคุณมากค่ะ

  7. สมชาย จึงสิริพิพัฒน์พร says:

    พระอริยาจารย์สายวัดป่าท่านชมธาตุธรรมผู้น้อยดังหลวงปู่มั่น ภูริทัตโตดุจพระอาจารย์วัดสาขาธรรมกายท่านชมกายผู้น้อยนั่งสมาธิกรรมฐานน่าดูชมดั่งหลวงปู่สด จันทสโรผู้น้อยชมท่านในใจวันนั้นตาถึงในจิตวันนี้จริงๆ ขอรับ ครับผม สาธุๆๆ

  8. ᗩᑘ Sᓰᖇᓰᖻᗩ says:

    ดีใจที่เรามีพระเจ้าอยู่หัวเป็นพระโพธิสัตว์หลายพระองค์ค่ะ รัชกาลที่ 9 เราทราบอยู่แล้วแต่ รัชกาลที่ 3 ไม่ทราบมาก่อน ดีใจมากค่ะ เพราะโดยส่วนตัวนับถือท่านมาก มี 3 ท่านในดวงใจ คือ พระเจ้าตาก ร. 3 และ ร.9 ค่ะ

  9. KP says:

    คนที่อธิษฐานพุทธภูมินั้น ชาตินี้ถึงเวลาจะมีคนมาช่วยให้เราอธิษฐานต่อจากชาติก่อนๆ ถ้าไม่มีการอธิษฐานในชาตินี้เลย ก็ไม่ใช่โพธิสัตว์ที่ขอพุทธภูมิ

  10. P P says:

    กราบอนุโมทนาบุญเจ้าค่ะลูกไม่อยากเกิดอีกแล้วเจ้าค่ะลูกอยากพ้นทุกข์เจ้าค่ะ

  11. Kane Chaivivat says:

    ความรู้จากธรรมบรรยายครั้งนี้ ไม่สามารถฟังได้จากรายการอื่น เป็นประโยชน์มากค่ะ อนุโมทนาค่ะ

  12. Khun j3ankz says:

    หลวงพ่อกฤช นิมฺมโล สวนธรรมประสานสุข บ้านโค้งดารา ต.บางพระ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี

  13. Nandanath Bodhisattva Heavenly blessing says:

    ใช่ค่ะ ท่านพูดถูก ถ้าบำเพ็ญบารมีถึงระดับนิยตะแล้วจะไม่มีการลาคือเป็นพระมหาโพธิสัตว์แล้วบารมีเข้มข้นเต็มกำลังแต่ก็มีบางท่านที่จำเป็นต้องลาทั้งที่บำเพ็ญมาใกล้จะเต็มแล้วนั่นคือหลวงพ่อพระราชพรหมยาน หรือหลวงพ่อฤษีลิงดำเหตุเพราะพระพุทธเจ้าขอให้ท่านลาเพื่อจะสอนวิชามโนมยิทธิกรรมฐานให้คนรุ้จักนรก สวรรค์ และนิพพานว่ามีจริงไปไม่ใช่มโนเอาเองสามารถไปกราบทูลถามปัญหากับพระพุทธเจ้าได้ ถ้าท่านไมลาพุทธภูมิก็จะสอนคนให้รู้ถึงขั้นนี้ไม่ได้ คนก็จะไม่เข้าใจพระนิพพานอย่างถูกต้อง

  14. Lek Klangnapa says:

    สาธุพระคุณเจ้าสาธุสาธุเจ้าค่ะฟังทา่นแล้วมีสุขอยา่งประหลาดทัีงๆที่ความรู้ไม่ถึง่คะ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น