8 น้ำมันปลา 2022 ช่วยลดไขมัน บำรุงสมอง บำรุงผิว ต้องกิน
อ่าน 3,307
แนะนำ น้ำมันปลา 2022 เพราะร่างกายของเราอาจไม่แข็งแรงตลอดเวลา ดังนั้นการทานอาหารเสริมจึงเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงในวันนี้ แก๊งบิวตี้ จึงมีน้ำมันปลา 8 ยี่ห้อ ที่กินแล้วได้ผลสำหรับคุณสาวๆ เชื่อว่าสาวๆ หลายคนอยากกินแต่ไม่รู้จะกินยี่ห้อไหนดี หรือจะกินตอนไหน มาดูกัน
น้ำมันปลาหรือน้ำมันปลา เป็นน้ำมันที่สกัดจากเนื้อปลา หนัง หัว และหางของปลาทะเลน้ำลึก ซึ่งมีกรดไขมันหลายชนิดในน้ำมันปลา แต่ชนิดที่สำคัญและมีการใช้ในทางการแพทย์คือ กรดไขมันโอเมก้า 3 และโอเมก้า 6 ซึ่งประกอบด้วยกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน กรดไขมันที่สำคัญที่สุดคือกรดไขมันโอเมก้า 3 เพราะมีกรดจำเป็น 2 ชนิดคือ EPA (กรด eicosapentaenoic) และ DHA (กรดโดโคซาเฮกซาอีโนอิก) ซึ่งเป็นกรดไขมันจำเป็น แต่ร่างกายไม่สามารถทำเองได้ และจะต้องได้รับจากอาหารเท่านั้น
สารบัญ
ประโยชน์ของน้ำมันปลา
– EPA ช่วยลดระดับไขมันในเลือดไตรกลีเซอไรด์
– EPA ช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือด
– EPA สามารถช่วยลดความดันโลหิตสูงให้อยู่ในระดับปกติได้
– EPA มีคุณสมบัติต้านการอักเสบต่างๆ ในร่างกาย
– DHA เป็นส่วนประกอบของเซลล์สมอง เส้นประสาท และเรตินา
– DHA สามารถช่วยป้องกันภาวะซึมเศร้าและความจำหรือโรคอัลไซเมอร์ได้
หลายคนอาจสงสัยว่าน้ำมันปลา ต่างจากน้ำมันตับปลา (น้ำมันตับปลา) อย่างไร?
น้ำมันตับปลาคอดเป็นน้ำมันที่ได้จากตับของปลาทะเล เป็นแหล่งของวิตามินเอ ช่วยบำรุงผิว และวิตามินดี ซึ่งช่วยเพิ่มการดูดซึมแคลเซียมในกระดูก หากกินมากเกินไป อาจเป็นพิษได้เนื่องจากการสะสมของวิตามิน A และ D ซึ่งเป็นวิตามินที่ละลายในไขมันในร่างกาย
น้ำมันปลา
1. สกัดจากเนื้อ หัว หาง และปลาทะเล
2. เป็นแหล่งของกรดไขมันจำเป็นโอเมก้า 3
3. ลดความเสี่ยงของการเกิดไขมันในเลือดสูง
น้ำมันตับปลา
1. สารสกัดจากตับปลาคอด
2. เป็นแหล่งวิตามิน A และ D ที่ดี
3. การดูแลร่างกายทั่วไป
วิธีใช้น้ำมันปลา
- ขวดน้ำมันปลาแต่ละยี่ห้อมีเนื้อหา EPA และ DHA อยู่ในรายการ ดังนั้นเราจึงรู้ว่าต้องทานกี่เม็ดต่อวัน กินพอประมาณ หลังอาหาร 3 มื้อ มื้อละเท่ากัน
- ควรกินภายใต้โภชนาการที่ดี กินอาหารที่ไม่ผ่านการปรุงแต่งอื่นๆ ไม่ใช่แค่น้ำมันปลา
- แม้กระทั่งตอนนี้ การวิจัยยังระบุว่าการรับประทานน้ำมันปลามีผลเพียงเล็กน้อยต่ออุบัติการณ์ของการแข็งตัวของเลือด (ไม่น่าจะเลือดออกง่าย) แต่แนะนำให้หยุดกินน้ำมันปลาอย่างน้อย 15 วันก่อนทำฟัน
- สำหรับสตรีมีครรภ์ ปัจจุบันมีงานวิจัยหลายชิ้นระบุว่าการทานน้ำมันปลาไม่มีผลเสียต่อการตั้งครรภ์ พร้อมคำแนะนำว่า สตรีมีครรภ์อายุครรภ์ 25-35 สัปดาห์ และสตรีให้นมบุตร ควรรับประทาน DHA 1-2 แคปซูล ทุกวัน เพื่อช่วยส่งเสริมการพัฒนาสมองและดวงตาในทารกและเด็ก
- สำหรับผู้ที่รับประทานทินเนอร์เลือดสำหรับโรคหัวใจและหลอดเลือดหรืออื่นๆ รวมทั้งผู้ป่วยตับและไต ต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์หากรับประทานน้ำมันปลา
น้ำมันปลายี่ห้อใดที่สามารถเป็น 2022?
ได้ทราบข้อมูลน้ำมันปลาแล้ว คราวนี้เรามาดูกันว่าเราจะหาซื้อน้ำมันปลากินกันได้หรือไม่ คุณควรซื้อยี่ห้อใดตามความเหมาะสม แก๊งบิวตี้ ไปดูกันเลย
1. เมก้า วีแคร์ น้ำมันปลา
มาเริ่มกันที่ Mega We Care Fish Oil ที่บางคนอาจคุ้นเคยกันดีว่าเป็นที่นิยมกันมาก สูตรนี้ได้คัดเลือกสารสกัดจากน้ำมันปลาจากปลาทะเลน้ำลึกไอซ์แลนด์เพื่อให้เป็นอาหารเสริมคุณภาพสูงที่อุดมไปด้วยโอเมก้า 3 และ DHA เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดระดับไตรกลีเซอไรด์ สูตรนี้ยังผ่านการทดสอบและรับรองแล้วว่าปราศจากสารปนเปื้อน รวมถึงโลหะหนัก สารแต่งกลิ่นและสีสังเคราะห์ และสารกันบูด ทำให้เหมาะสำหรับเด็กและผู้ใหญ่ สามารถบริโภคได้อย่างต่อเนื่องเป็นเวลานานโดยไม่ทิ้งสารสะสมในร่างกาย ราคา 250 บาท.
2. น้ำมันปลากิฟาริน 1000
ต่อไป Mega We Care Fish Oil เป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารน้ำมันปลาระดับพรีเมียมที่มี omega-3 EPA และ DHA เพื่อช่วยลดไขมันในหลอดเลือด ปรับปรุงการไหลเวียนโลหิต ไม่ลื่นไหล ป้องกันโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ที่เกิดจากรูมาตอยด์ บำรุงปลายประสาทและเซลล์สมอง ช่วยป้องกันโรคหัวใจ เบาหวาน และความดันโลหิตสูง เด็กและผู้ใหญ่รับประทานได้
3. วิสตรา แซลมอน ฟิช ออยล์ พลัส วิตามิน อี
สำหรับ Vistra นี่เป็นอีกหนึ่งแบรนด์อาหารเสริมที่เรารู้จัก สูตรนี้เป็นน้ำมันปลาที่อุดมไปด้วยกรดไขมันโอเมก้า 3 ที่มีทั้ง EPA และ DHA พร้อมด้วยคุณสมบัติของวิตามินอี ซึ่งช่วยบำรุงผิว ผม และเล็บ และยังมีส่วนช่วยในการต้านอนุมูลอิสระ ยังช่วยบรรเทาอาการปวดข้อ ลดไตรกลีเซอไรด์ในเลือดและระดับคอเลสเตอรอลหรือบำรุงเซลล์สมองและสายตา ราคา 360 บาท
4. แบลคมอร์ส 1000 น้ำมันปลา
Blackmores Fish oil 1000 เป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารของออสเตรเลีย สำหรับน้ำมันปลา สูตรนี้เป็นสารสกัดจากปลาทะเลน้ำลึกที่ให้กรดไขมันโอเมก้า 3 ที่ทรงพลังทั้ง DHA และ EPA รวมถึงวิตามินอีช่วยบำรุงสมอง หลอดเลือด และร่างกายได้ดียิ่งขึ้น มีบทบาทสำคัญในการช่วยให้เลือดหมุนเวียน ลดไตรกลีเซอไรด์และลดระดับคอเลสเตอรอล และที่สำคัญได้รับการตรวจสอบแล้วว่าปราศจากสารปรอทและตะกั่ว ราคา 873 บาท
5. น้ำมันปลาเบเวลแซลมอนพลัสวิตามินอี
อาหารเสริมอื่นของออสเตรเลียสำหรับ Bewel Salmon Fish Oil Plus Vitamin E ประกอบด้วยกรดไขมันโอเมก้า 3 DHA และ EPA ที่สกัดจากปลาทะเลน้ำลึกไอซ์แลนด์ ปราศจากโลหะหนักและสิ่งสกปรก ช่วยลดไขมันไตรกลีเซอไรด์ในเลือดซึ่งหากสะสมมากเกินไปอาจเป็นอันตรายได้ นอกจากจะช่วยบรรเทาอาการปวดข้อแล้ว และรวมวิตามินอีในแต่ละแคปซูลเพื่อบำรุงผิว ราคา 270 บาท.
6. ตอนนี้โอเมก้า 3 ที่กลั่นระดับโมเลกุล
สำหรับตอนนี้ Omega-3 ที่กลั่นด้วยโมเลกุลเป็นอาหารเสริมจากประเทศสหรัฐอเมริกา ประกอบด้วยสารสกัดจากน้ำมันปลาแอนโชวี่คุณภาพสูง อุดมไปด้วยโอเมก้า 3 ทั้ง EPA และ DHA ช่วยบำรุงหัวใจให้แข็งแรง ลดความเสี่ยงของโรคหัวใจวายและดูแลหลอดเลือด ผสมด้วยวิตามินอีจากน้ำมันดอกทานตะวัน ช่วยปกป้องเซลล์จากอนุมูลอิสระและชะลอความเสื่อมของเซลล์ในร่างกาย และแน่นอนว่าได้รับการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาประเทศสหรัฐอเมริกา (FDA) ว่าปราศจากสารตะกั่ว ปรอท หรือสารโลหะหนักอื่นๆ ทานได้ปลอดภัยแน่นอน ราคา 285 บาท.
7. นิวทริไลท์ แซลมอน โอเมก้า คอมเพล็กซ์ น้ำมันปลา
มาค่ะ อาหารเสริมน้ำมันปลาตรา NUTRILITE สกัดจากปลาแซลมอน ซึ่งเป็นปลาทะเล ไม่เติมสีและรส น้ำมันปลาให้กรดไขมันโอเมก้า 3 รวมทั้ง EPA และ DHA ช่วยบำรุงเซลล์ประสาทและสมอง บำรุงสายตา และยังมีวิตามินอีต้านอนุมูลอิสระ ให้ผิวเปล่งปลั่ง ดูอ่อนกว่าวัยด้วย ราคา 720 บาท
8. น้ำมันปลาไบโอโกรว์
สุดท้ายกับ Biogrow FISH OIL น้ำมันปลานำเข้าจากนิวซีแลนด์ ประกอบด้วยสารสกัดจากปลาทะเลน้ำลึกที่ให้คุณค่าของกรดไขมันโอเมก้า 3 ทั้ง DHA และ EPA ช่วยปรับปรุงการไหลเวียนโลหิต บำรุงสมอง และลดไตรกลีเซอไรด์ในเลือด และยังช่วยบำรุงสายตา ลดอาการปวดเมื่อยตามไขกระดูก นอกจากนี้ยังมีวิตามินอีผสมผสานที่ช่วยบำรุงผิว ผม เล็บ ให้มีสุขภาพดีอีกด้วย ราคา 390 บาท.
คุณจะทำอย่างไรกับผลิตภัณฑ์เสริมอาหารน้ำมันปลาที่เราแนะนำ? ถ้าชอบอย่าลืมซื้อกิน แต่อย่าลืมกินในปริมาณที่พอเหมาะ มิฉะนั้นนอกจากจะไร้ประโยชน์แล้ว ยังจะทำให้สุขภาพไม่ดีอีกด้วย
#นำมนปลา #ชวยลดไขมน #บำรงสมอง #บำรงผวพรรณตองทาน