10 สาเหตุ/10 วิธีรักษา-ป้องกันสิว หายขาดแล้วไม่กลับมาอีก!!!

อ่าน 3,196

ปุ่ม ลักษณะสีแดงและคันมีช่องว่างบนใบหน้าโดยเฉพาะหน้าผากและขมับที่มีการอักเสบและไม่อักเสบ หลายคนที่มีปัญหาเกี่ยวกับสิวซึ่งส่วนใหญ่บนใบหน้าหน้าผากในสภาพอากาศร้อนจะตื่นเต้นมากกว่านิสัยวันนี้ gangbeauty มาถึง พูดถึงสาเหตุของการเกิดสิว และดูแลตัวเองอย่างไร!!

: pxhere.com


สาเหตุของการเกิดสิว

1. สิวส่วนใหญ่เกิดจากมลภาวะ แสงแดด และความร้อน เพราะความร้อนและแสงแดดทำให้ต่อมเหงื่อเหงื่อออกจนหมด จนต่อมเหงื่ออุดตันและเกิดเป็นพุพองเล็กๆ คล้ายสิว จึงทำให้สิวหายไปในตอนเช้าเมื่ออากาศเย็น แต่ตอนเที่ยงมันร้อน สิวเสี้ยนจะกลับมาสดใสบนใบหน้า บ้านเรายิ่งสวยและอบอุ่นทุกฤดู ดังนั้นจึงเป็นการยากที่จะหลีกเลี่ยงสิวประเภทนี้

2. เกิดจากยีสต์ที่เรียกว่า P. ovale สาเหตุของการเกิดสิวเสี้ยนที่เกิดจากยีสต์ เชื่อกันว่าเกี่ยวข้องกับมลภาวะ เพราะในช่วงที่อากาศร้อน ต่อมไขมันของเราจะทำงานมากขึ้น ทำให้น้ำมันส่วนเกินบนใบหน้ากลายเป็นอาหารของยีสต์ พอหนักจะแตกตัวเร็วจนทำให้เกิดสิวขึ้น เมื่อคุณดูเผินๆ คุณมักจะไม่เห็นสิวประเภทนี้ แต่ถ้าแสงและมุมกระทันหัน คุณจะเห็นได้ทันทีว่าใบหน้าของเราไม่เนียนเท่าที่เข้าใจ ฉันไม่สามารถพาเขาออกไปได้ เผลอกดเข้าไปแล้วไม่มีอะไรออกมา ยังทำให้เกิดการอักเสบซ้ำๆ

3. มลภาวะทางสิ่งแวดล้อม น้ำ และอากาศ

4.เกิดจากการแพ้น้ำหรือเหงื่อ

5. ใช้น้ำอุ่นล้างหน้าเป็นประจำ

: pxhere.com


6. โฟมล้างหน้าที่มีฟองมากเกินไปหรือไม่เหมาะกับสภาพผิวของเรา

7.เช็ดและขัดผิวหน้าบ่อยๆ หรือถูหน้าแรงๆ

8. เครื่องสำอางสกปรกหรืออุปกรณ์แต่งหน้าบางชนิด

9. นอนหรือพักผ่อนน้อยเกินไป

10. ภูมิคุ้มกันอ่อนแอหรือร่างกายไม่แข็งแรง

: pxhere.com

วิธีการรักษาสิว

1.ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมส่วนตัว เพื่อป้องกันสิวทุกชนิดและไม่ให้แพร่กระจาย ด้วยการฝึกฝนตนเองและยับยั้งชั่งใจไม่ให้รบกวนผิวหน้า เช่น นวดหน้า ถู เช็ด ขุด จิก เกาหน้าบ่อยๆ เพราะบางคนเป็นสิวกังวลและมักจะลูบไล้ใบหน้า จนเราลืมไปว่ามือของเราไม่สะอาด และอาจจะเป็นการกระตุ้นสิวที่มีอยู่ให้กระจายมากยิ่งขึ้น

2. ล้างหน้าอย่างถูกวิธี ไม่ควรล้างหน้าบ่อยๆ เนื่องจากลักษณะหนึ่งของสิวคือยิ่งเราล้างหน้าบ่อยเท่าไหร่ ยิ่งกระตุ้นการปรากฏตัวของสิวมากขึ้นเท่านั้น ดังนั้นควรล้างหน้าเท่าที่จำเป็นเท่านั้น ไม่เกินวันละ 2-3 ครั้ง (ระหว่างวันให้ล้างหน้าด้วยน้ำสะอาด) ห้ามใช้น้ำอุ่นล้างหน้า หลีกเลี่ยงการล้างหน้าด้วยสบู่ และหลังออกกำลังกายควรล้างหน้าทุกครั้ง ล้างสิ่งสกปรก น้ำมันบนใบหน้าและแบคทีเรีย

3. กินอาหารที่มีประโยชน์ คุณควรหันมากินผักและผลไม้ให้มากขึ้น ลองเสริมแร่ธาตุอย่างสังกะสีเพื่อช่วยให้ผิวแข็งแรง ดื่มน้ำปริมาณมาก เพื่อช่วยปรับสมดุลร่างกายภายในให้เย็นและชุ่มชื้น

4. เลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับผิว เหมาะกับสภาพผิวของเรา ตั้งแต่การล้างหน้าไปจนถึงการดูแลผิว ประเภทของว่านหางจระเข้ โรสแมรี่ ฯลฯ หรือผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่สามารถขจัดแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดสิวได้ รวมทั้งครีมกันแดด และเหนือสิ่งอื่นใดคุณต้องล้างออกให้สะอาด เพราะไม่อย่างนั้นสิวอุดตันได้ และหลีกเลี่ยงการใช้ครีมหรือยาที่ระคายเคืองต่อผิวหนังมากขึ้น เช่น กรดเรติโนอิก, เบนโซอิลเปอร์ออกไซด์ AHA, BHA เป็นต้น

5.หลีกเลี่ยงแสงแดด และใช้ครีมกันแดดทุกครั้งที่ออกจากบ้าน โดยเลือกครีมกันแดดที่มีความมันน้อยกว่า เช่น ครีมกันแดดที่มีค่า SPF 15 PA+++

: pixabay.com


6. พบแพทย์ผิวหนัง หากคุณต้องการป้องกันสิวอย่างถาวร คุณต้องปรึกษาแพทย์ เพื่อช่วยหาสาเหตุ แนวทางการป้องกันและวิธีการรักษาสิวอย่างถูกวิธี ที่สำคัญคือไม่ควรซื้อยารับประทานหรือตามใจตัวเอง เพราะนั่นอาจทำให้มากขึ้น เนื่องจากยารักษาสิวส่วนใหญ่มีสเตียรอยด์

7. Adapalene: Adapalene ใช้กลุ่มของ retinoids เช่น Differin เพื่อทาก่อนนอน ให้สิวขึ้นเป็นสิวแล้วค่อยกลบทีหลัง

8. เลเซอร์สำหรับคนใจร้อน ถ้ารอไม่ไหวก็ใช้วิธีเร่งด่วน เช่น การทำเลเซอร์ วิธีนี้สามารถทิ้งรอยดำบนใบหน้าได้ ผู้ที่เลือกวิธีนี้ต้องดูแลร่องรอยเหล่านี้ ปัจจุบันหลายคนเลือกใช้เลเซอร์รักษา เพราะมันสามารถกำจัดสิวอุดตันได้ นอกจากนี้ ทำครั้งเดียวและกำจัดทั้งใบหน้าของคุณ นอกจากนี้ในปัจจุบันนี้ยังมีครีมลดเลือนจุดด่างดำ มันมีประสิทธิภาพมาก ทำให้วิธีนี้เป็นที่นิยมในหมู่ผู้ที่เป็นสิว หากสนใจลองปรึกษาแพทย์เพื่อความชำนาญเพิ่มเติม

9. สูตรมะนาว ผงพิเศษร่มชูชีพ และแป้งโยคี สูตรนี้ใช้ได้ทั้งหน้าและตัว เพราะนอกจากจะช่วยให้สิวแห้งแล้ว ยังช่วยลดรอยดำที่เกิดจากสิวอีกด้วย เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวมันและผิวผสม ระยะเวลาเห็นผลประมาณ 1 เดือนครึ่ง หากทำต่อไปจะเห็นผลใน 4-5 เดือน ทำทุกวัน. ใช้ส่วนผสมเพียง 3 อย่าง: น้ำมะนาวครึ่งลูก แป้งตราร่มชูชีพชนิดพิเศษและแป้งโยกิผสมกันไม่ให้น้ำมูกไหลหรือข้นจนเกินไป (เมื่อทาลงบนใบหน้าได้) จากนั้นให้ทาลงบนใบหน้าแล้วทิ้งไว้ค้างคืน ในสูตรนี้ มะนาวมีบทบาทสำคัญ เพราะมี AHA ซึ่งช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว จึงช่วยให้รูขุมขนสะอาด และยังช่วยให้จุดด่างดำจางลง

10. ผงศรีจันทร์หอมสูตรโยเกิร์ต อีกหนึ่งวิธีธรรมชาติในการรักษารอยแผลเป็นจากสิว ผงศรีจันทร์หอมเป็นแป้งที่มีชื่อเสียงในด้านคุณสมบัติที่ช่วยในการรักษาสิว จึงผสมกับครีมบำรุงผิว น้ำ และน้ำมัน แต่ส่วนผสมที่ทำให้ทาง่ายไม่อุดตันรูขุมขนคือโยเกิร์ต วิธีง่ายๆ แค่ใช้โยเกิร์ตรสธรรมชาติ 3 ช้อนโต๊ะ ต่อแป้งศรีจันทร์ 1 ช้อนโต๊ะ ผสมให้เข้ากันแล้วมาส์กให้ทั่วใบหน้า ทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที แล้วล้างออกให้สะอาด เพื่อไม่ให้อุดตัน สูตรนี้เราทำได้ทุกวัน สำหรับผู้ที่มีผิวแห้ง คุณสามารถลองใช้สัปดาห์ละสองครั้งก่อนเพื่อหลีกเลี่ยงความแห้งกร้านมากเกินไป จากนั้นลองเพิ่มจำนวนครั้งมากขึ้นตามที่คุณต้องการ รับรองได้เลยว่าสูตรนี้จะช่วยให้หน้าคุณเปล่งปลั่งขึ้น ช่วยรักษาสิว และยังช่วยลดความมันบนใบหน้า

ภาพประกอบปกของ: pinterest.com

#สาเหต10 #วธรกษาปองกนสวผด #ใหหายขาดและไมกลบมาเปนอกครง

0/5 (0 Reviews)

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น