แค่เดินก็ผอมได้!!!7 เทคนิคเดินลดความอ้วนให้ “ผอม” !!!

อ่าน 4,017

ถ้าใครไม่ชอบออกกำลังแบบออกกำลัง การเดินเป็นทางเลือกที่ดีมาก หรือเดินออกกำลังกายอย่างไรให้ได้ผลใกล้เคียงกับการวิ่งมากๆ และไม่น่าจะเหนื่อยจนเกินไป!!


1. ใส่รองเท้าวิ่งของคุณ

แม้ว่าการออกกำลังกายของเราเป็นเพียงการเดิน แต่การเลือกใส่รองเท้าวิ่งสำหรับเดินก็ถือเป็นตัวเลือกที่ดีมาก เพราะรองเท้าวิ่งได้รับการออกแบบให้ดูดซับแรงกระแทกได้ดี ทำให้แต่ละย่างก้าวของเราลื่นไหลมากขึ้น อาการบาดเจ็บที่เท้า ข้อเท้า เข่า หรือขาโดยทั่วไปจะน้อยลง ความเหนื่อยล้าช้าลง และที่สำคัญ ถ้าเรามีรองเท้าที่ใส่สบายดีสำหรับเดิน เราก็อยากเดินนานๆ n ‘นี้ไม่ได้?

2. เพิ่มน้ำหนัก

แทนที่จะเดินเบา ๆ ไปให้ไกล ลองเปลี่ยนเป็นเดินให้สั้นลง แต่ใช้เวลาน้อยลงและมีประสิทธิภาพมากขึ้น เหมือนเพิ่มน้ำหนักให้กับสิ่งกีดขวางเล็กๆ น้อยๆ เหมือนสะพายเป้ หรือรัดกระสอบทรายที่ข้อเท้า เสริมข้างละ 0.5 กก. หรือเดินตลาดสบายๆ เดินไปซูเปอร์มาร์เก็ตเพื่อซื้อของ แล้วแบกของและเดินกลับ เป็นอุปสรรคต่อการเดินมากกว่า (ซึ่งก็ดี เผาผลาญพลังงานได้มากกว่า)


3.เดินเร็วกว่าเดิม

แทนที่จะเดินออกไปรับลมและชมวิว พยายามท้าทายตัวเองให้มากกว่านี้ ด้วยความเร็วในการเดินที่เพิ่มขึ้น อาจเปิดเพลงเร็วบางเพลง มากับคุณขณะเดิน (เปิดเสียงเบาพอที่จะให้คุณได้ยินบรรยากาศภายนอก) หรือจำกัดเวลาเดินของคุณ คุณควรเดินไปทางไหน? ในไม่กี่นาที ฯลฯ เพียงแค่เดินและหอบเหมือนวิ่งเหยาะๆ

4. อย่าลืมแกว่งแขน

การแกว่งแขนที่ดี จะช่วยให้การเดินของเรามีประสิทธิภาพมากขึ้น เดินคล่องตัวมากขึ้นและแรงเหวี่ยงหนีศูนย์เบา จากอ้อมแขนก็จะช่วยดันลำตัวไปข้างหน้า อำนวยความสะดวกในการเดินแกว่งแขนได้ดี คือการแกว่งแขนสลับกับขาเดิน เช่น เหยียบเท้าขวาแกว่งแขนซ้ายไปข้างหน้าสลับกัน ความสูงของแขนไม่เกินหน้าอก และทุกครั้งที่คุณแกว่งแขน คุณควรรู้สึกว่ากล้ามเนื้อไหล่ คอ และหลังของคุณเคลื่อนไหวด้วยการแกว่งแขน

5. ขึ้นบันได/ทางลาดชัน

การเดินทางคนเดียวมันน่าเบื่อเกินไป เหตุผลเดียวกับที่หลายคนเลือกวิ่งในสวนสาธารณะ เนื่องจากเราจะเจอพื้นที่ต่างๆ ตามธรรมชาติ ปูน ทราย หญ้า หรือเนินลาด ลาด และขั้นบันได เราจึงสามารถขึ้นลงบันไดได้ หรือทางลาดชันซ้ำๆ จนเมื่อยล้าแล้วมุ่งหน้าสู่การเดินทางที่ราบรื่น เส้นทางเหล่านี้กระตุ้นกล้ามเนื้อให้ทำงานหนักขึ้นเล็กน้อย รวมทั้งกล้ามเนื้อหัวใจ (คาร์ดิโอแบบเบา)

6. เดินตรงอย่างน้อย 30 นาที

การออกกำลังกายอย่างได้ผลหรือออกกำลังกายอย่างต่อเนื่องในบางครั้ง โดยเฉลี่ยแล้วแนะนำให้ฝึกอย่างน้อย 30 นาที เพื่อให้กล้ามเนื้อทั้งหมดได้ทำงานอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลาหนึ่ง ให้การออกกำลังกายของเราทำงานหนักพอที่จะเผาผลาญแคลอรีจากอาหารที่เราได้รับได้จริง


7. วอร์มอัพก่อนและหลังเดิน

จำไว้ว่าแม้แต่การเดินก็เป็นเพียงการเดินเล่นสบายๆ ไม่ออกแรงเหมือนการออกกำลังกายประเภทอื่น แต่สุดท้ายการเดินก็เป็นการออกกำลังกายเช่นกัน หากคุณสามารถวอร์มอัพและคูลดาวน์ก่อนและหลังเดินได้ ซึ่งจะช่วยลดอาการบาดเจ็บที่เกิดจากการเดินได้ (เดินเร็วๆ ขึ้นบันได เกร็งเท้าเกร็งขาขึ้น จะทำให้กล้ามเนื้ออักเสบไม่เป็นตะคริว)

#แคเดนกผอมได #เทคนค #เดนลดนำหนก #อยางไรให #ผอม

0/5 (0 Reviews)

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น