อาการตั้งครรภ์ อาการแพ้ท้อง อาการการตั้งครรภ์ สิ่งที่คุณแม่มือใหม่ต้องรู้

อ่าน 5,509

อาการตั้งครรภ์ส่วนใหญ่ที่เรารู้คือ ขาดประจำเดือน เวียนหัว คลื่นไส้ แต่จริงๆ แล้วอาการตั้งครรภ์มีมากกว่านั้นและแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล บางคนมากหรือน้อยบางครั้งก็ไม่มีอะไรแม่ใหม่ฉันรู้ว่าฉันกำลังตั้งครรภ์และกำลังพยายามสังเกตดูว่าคุณมีอาการเหล่านี้หรือไม่ แล้วแม่ๆ จะเจออะไรบ้างในแต่ละเดือน? ที่เราอยากแบ่งปันอาการตั้งครรภ์ตามไตรมาสดังต่อไปนี้


อาการตั้งครรภ์ 1-3 เดือน

อาการตั้งครรภ์ไตรมาสแรกตรงกับช่วง 1-3 เดือนแรกของการตั้งครรภ์ ในช่วงเดือนแรก คุณแม่ส่วนใหญ่ไม่ทราบว่าตนเองกำลังตั้งครรภ์ อาการตั้งครรภ์พบในช่วงเวลานี้คือ

  • ขาดช่วงเวลา ประจำเดือนมักจะมาพร้อมกันทุกเดือน หากประจำเดือนมาช้ากว่า 10 วัน อาจเป็นการเตือนว่ามารดากำลังตั้งครรภ์ เหตุผลที่สตรีมีครรภ์พลาดประจำเดือนเพราะร่างกายผลิตฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนเพื่อหยุดการมีประจำเดือนและส่งเสริมการตั้งครรภ์ที่มีสุขภาพดี
  • รู้สึกง่วงนอน อ่อนเพลียง่าย เพราะฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนและอุณหภูมิร่างกายสูงขึ้น ร่างกายต้องแบ่งปันพลังงานเพื่อเลี้ยงลูกในครรภ์ ระหว่างตั้งครรภ์ แม่รู้สึกอ่อนแอ ง่วงนอนตลอดเวลา
  • คัดหน้าอก แน่นหน้าอก ฐานเป็นวงกลมรอบหัวนมให้ใหญ่ขึ้น คุณแม่บางคนอาจมีอาการปวดเต้านมหรือหัวนม ที่มีอาการคล้ายกับรอบเดือนปกติ
  • แพ้ท้อง มีกลิ่นอาหาร ระหว่างตั้งครรภ์ คุณแม่บางคนอาจได้กลิ่นอาหารบางชนิด รู้สึกเวียนหัว คลื่นไส้ กินเข้าไปแล้วอาเจียนให้หมด
  • ปวดศีรษะ วิงเวียนศีรษะ เพราะน้ำตาลในเลือดมีความดันโลหิตต่ำจึงทำให้เกิดอาการปวดศีรษะ อาการวิงเวียนศีรษะหรือเวียนศีรษะซึ่งแก้ไขได้ด้วยการรับประทานอาหารและดื่มน้ำให้เพียงพอ อาการมักจะเกิดขึ้นบ่อยขึ้นในตอนเช้าและค่อยๆ พัฒนา ลดลงระหว่างวัน
  • ปวดปัสสาวะบ่อย เนื่องจากมดลูกขยายตัวเพื่อให้มีที่ว่างสำหรับทารกในครรภ์ มดลูกจึงกดทับกระเพาะปัสสาวะ ทำให้พื้นที่จัดเก็บลดลง ทำให้แม่ต้องปัสสาวะบ่อย
  • อารมณ์แปรปรวน อารมณ์ที่ควบคุมไม่ได้จะรู้สึกหงุดหงิด เหงา เศร้า หวาดกลัว คิดมาก
  • ตกขาวจำนวนมาก มารดาจะมีตกขาวมากกว่าปกติเพราะฮอร์โมนเพศหญิงเพิ่มขึ้นระหว่างตั้งครรภ์ ดังนั้นควรรักษาบริเวณอวัยวะเพศให้สะอาด เลือกชุดชั้นในที่หลวมและระบายอากาศได้ ป้องกันการหมักและการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย


อาการตั้งครรภ์ที่ 4-6 เดือน

อาการตั้งครรภ์ไตรมาสที่ 2 ของการตั้งครรภ์ ผ่านไปครึ่งทางแล้ว เมื่อถึงจุดนี้จะมีการเปลี่ยนแปลงทางสรีรวิทยาของมารดาอย่างชัดเจน ท้องเป็นหน้าอกที่ใหญ่ขึ้นรวมถึงน้ำหนักที่เพิ่มขึ้น อาการตั้งครรภ์แม่คนนี้คือ

  • หน้าอกมีขนาดใหญ่ หน้าอกจะขยายใหญ่ขึ้นในช่วง 1-3 เดือน หัวนมจะเข้มขึ้น และขยายท่อน้ำนมเพื่อเตรียมน้ำนมให้ลูกน้อยหลังคลอด
  • หัวใจเต้นเร็วขึ้น เนื่องจากร่างกายต้องสูบฉีดเลือดไปยังส่วนต่างๆ ของร่างกาย หัวใจจึงต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อจัดหาเลือดให้เพียงพอกับความต้องการ
  • ทารกดิ้นรนเป็นเวลา 4-6 เดือน ซึ่งเป็นช่วงที่มารดาจะรู้สึกว่าทารกกำลังดิ้นรนอยู่ในครรภ์ คุณแม่จะรู้สึกว่าท้องจะหดเล็กน้อย ยิ่งท้องแก่ ทารกก็จะยิ่งดิ้นรน
  • เริ่มเป็นตะคริว ในช่วงเวลานี้คุณแม่บางคนอาจรู้สึกว่าขาชา ชา หรือเป็นตะคริวบ่อย ซึ่งอาจเกิดจากการขาดแคลเซียม หรือการหดตัวของกล้ามเนื้อน่อง ต้นขา และนิ้วเท้า
  • ท้องลายเกิดจากการขยายช่องท้องจนเกิดลายรอบท้อง มันสามารถลามไปที่สะโพก ต้นขา หน้าอก และยังสามารถคัน
  • หิวบ่อย กินเยอะ เพราะร่างกายต้องการพลังงานในการเลี้ยงลูกในครรภ์
  • กรดไหลย้อน รู้สึกแสบร้อนที่หน้าอกหรือจุกเสียดบริเวณลิ้นปี่ เพราะมดลูกขยายตัวดันกระเพาะ และการเพิ่มขึ้นของฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนทำให้กล้ามเนื้อหลอดอาหารขยายตัว ส่งผลให้กรดในกระเพาะหรือน้ำผลไม้เพิ่มขึ้น
  • อาการท้องผูก คุณแม่มักจะท้องผูก เนื่องจากมดลูกขยายตัวไปกดทับกระเพาะอาหารและลำไส้ ทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานไม่เต็มที่
  • เส้นเลือดขอดเพราะต้องรองรับทั้งน้ำหนักของตัวเองและของลูก ทำให้ขาของแม่รับแรงกดได้มากกว่าปกติถึง 3 เท่า การยืนหรือนั่งเป็นเวลานานๆ อาจทำให้เส้นเลือดขอดได้

อาการตั้งครรภ์ 7-9 เดือน

อาการตั้งครรภ์ไตรมาสที่ 3 ของการตั้งครรภ์ เรามาถึงโค้งสุดท้ายแล้ว แม่กำลังจะไปดูลูก ในช่วง 7-9 เดือนนี้คุณแม่ต้องดูแลตัวเองให้มากๆ เพราะใกล้จะคลอดแล้ว อาการของแม่ที่มักมาช่วงนี้คือ

  • นอนยากขึ้นเพราะท้องแม่ใหญ่มากตอนนี้ ขณะนอนหลับ เขารู้สึกไม่สบายใจและไม่สบายใจ วิธีนี้แก้ได้ด้วยการนอนตะแคงแล้วสอดหมอนระหว่างขาเพื่อช่วยในการนอนหลับ
  • อาการปวดหลัง การเพิ่มน้ำหนักในครรภ์ทำให้หลังของแม่ต้องแบกรับน้ำหนักมากขึ้นเช่นกัน ฉันรู้สึกปวดหลังและอาจขยายไปถึงกระดูกเชิงกราน
  • การรั่วไหลของนมเป็นสัญญาณว่าร่างกายพร้อมที่จะให้นมลูก น้ำนมที่ออกมาจะมีสีเหลืองใสและไม่ควรปั๊มก่อนคลอด เพราะจะทำให้คลอดก่อนกำหนดได้
  • เคลื่อนไหวลำบาก เดิน นั่ง ยืน หรือนอนลำบาก เพราะพุงใหญ่และอาจปวดได้ บริเวณกระดูกเชิงกรานเมื่อเปลี่ยนท่า
  • เตือนอาการปวดท้อง ในระยะสั้นจะมีอาการปวดท้องเนื่องจากการหดตัวของมดลูก แม่จะรู้สึกปวดท้องราวกับคลอดลูกจริงๆ ซึ่งต้องย้ำก่อนคลอดลูกตัวจริงแน่นอน
  • รู้สึกจุกเสียด เพราะมดลูกขยายเพื่อบีบหน้าอกส่วนบนและซี่โครง คุณอาจสังเกตเห็นว่าสะดือตื้นกว่า สีเข้มกว่า และเส้นสีเข้มตรงกลางท้องจะเข้มกว่า
  • ร่างกายบวม เท้าบวม เพราะร่างกายสะสมน้ำไว้เป็นจำนวนมากในเนื้อเยื่อ นอกจากนี้ เท้าบวมยังอาจเกิดจากน้ำหนักของแม่ที่กดดันเส้นเลือดใหญ่ด้านหลังร่างกาย ทำให้เลือดไหลเวียนไม่สะดวก ส่งผลให้เท้าบวมเป็นตะคริวด้วย


การเป็นแม่ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ทุกเดือนที่คุณแม่อุ้มท้องต้องรับมือกับอาการตั้งครรภ์มากมายอาการตั้งครรภ์คุณแม่มือใหม่เหล่านี้จำเป็นต้องรู้ว่าพวกเขาจะเตรียมจิตใจและเตรียมพร้อมรับทุกสถานการณ์

#อาการคนทอง #อาการแพทอง #อาการตงครรภ #ทคณแมมอใหมควรร

0/5 (0 Reviews)

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น