อย่าชะล่าใจ! ปวดท้องบ่อย ท้องเสียบ่อย ถ่ายเป็นเลือด เสี่ยง “โรคลำไส้อักเสบ”

อ่าน 14,264

ปวดท้องบ่อย ท้องเสียบ่อย มีเสมหะ หรืออุจจาระเป็นเลือด เกิดขึ้นได้กับทุกคน แต่ถ้าอาการเหล่านี้เกิดขึ้นเรื้อรังและติดต่อกันเป็นเวลานาน อย่าชะล่าใจ เพราะเป็นการเตือนว่าคุณอาจมีความเสี่ยงต่อ “โรคลำไส้อักเสบเรื้อรัง”

โรคลำไส้อักเสบคืออะไร?


“โรคลำไส้อักเสบเรื้อรังหรือ IBD (โรคลำไส้อักเสบ) เป็นโรคที่ค่อนข้างเข้าใจผิด แพร่หลายสำหรับคนไทย เพราะเมื่อก่อนเป็นโรคที่มักเกิดเฉพาะในคนในแถบตะวันตกและตะวันออกกลาง แต่ปัจจุบันจะเห็นว่ามีผู้ป่วยโรคนี้อยู่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พบมากขึ้น ทุกช่วงวัย ตั้งแต่เด็กจนถึงผู้สูงอายุ โดยที่อายุเริ่มมีอาการคือ 20-40 ปี ซึ่งเป็นสถานการณ์ในประเทศไทย มีแนวโน้มอุบัติการณ์ของโรคเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ” รศ.นพ. จากประเทศไทย กล่าวว่า

อาการของโรคลำไส้อักเสบ

เนื่องจาก IBD มีอาการคล้ายกับโรคทางเดินอาหารอื่นๆ เช่น โรคกระเพาะ ริดสีดวงทวาร หรืออาการลำไส้แปรปรวน หรือ IBS (โรคลำไส้แปรปรวน) ซึ่งมักทำให้ผู้ป่วยไม่ทราบถึงอาการปวด ปวดท้อง ท้องร่วง หรือท้องเสียเป็นเลือดที่เกิดขึ้นเป็นอาการ ของ IBD ส่งผลให้การรักษาไม่ตรงกับโรค ผู้ป่วยจะหนักขึ้นและมีการอักเสบเรื้อรังมากขึ้น

สาเหตุของโรคลำไส้อักเสบ

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ นพ. จุลลักษณ์ ลิ้มศรีวิไล ในด้านโรคลำไส้อักเสบ ข้อมูลว่าโรคลำไส้อักเสบจากการทำงานผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกันของผู้ป่วย และคิดว่าลำไส้ของตัวเอง เป็นสารแปลกปลอมที่ทำให้เกิดการอักเสบคล้ายกับ “โรคพุ่มพวง” ความแตกต่างคือ โรคพุ่มพวงทำให้เกิดการอักเสบในทุกส่วนของร่างกาย แต่โรคลำไส้อักเสบส่วนใหญ่เป็นการอักเสบของระบบทางเดินอาหาร


อันตรายจากโรคลำไส้อักเสบ

“IBD หากไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง จะเกิดภาวะแทรกซ้อนได้ เช่น ลำไส้อุดตัน ลำไส้ทะลุ และมีความเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็ง หรืออาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนที่คุกคามถึงชีวิตได้ ดังนั้น หากมีอาการใด ๆ ที่อาจเป็นสัญญาณเตือนโรคนี้ได้ ผู้ป่วย ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อการวินิจฉัยที่ชัดเจน” ดร.จุลลักษณ์ กล่าว

“เมื่อรู้ตัวว่าป่วย มันเปลี่ยนทุกไลฟ์สไตล์ ควบคุมอาหารอย่างเคร่งครัด หลังจากกินแต่อาหารรสจัด เขาก็เลิกทันที รวมทั้งครอบครัวด้วย” ซานโตส กุมารี ตัวแทนผู้ป่วย กล่าว จากฝั่งคุณธีรตา กรีใจวัง คนไข้อีกคนที่ละเลยและไม่รักษาต่อเพราะกลัวผลข้างเคียงของยา “สำหรับผู้ที่เป็นโรคนี้ หากคุณมีวินัยในตนเอง เราควบคุมได้

ผลข้างเคียงทางจิตวิทยาของโรคลำไส้อักเสบ

นอกจากอาการของโรคนี้จะส่งผลต่อร่างกายแล้ว นอกจากนี้ยังส่งผลต่อสภาพจิตใจและความสัมพันธ์กับสมาชิกในครอบครัว เพราะมักรู้สึกไร้ความสามารถ โรคเครียด นอนไม่หลับ รู้สึกขาดอิสระในชีวิตและตกอยู่ในภาวะซึมเศร้าที่ต้องลาออกจากงาน

“พอรู้ว่าป่วย เราเกิดเป็นโรคซึมเศร้า ส่งผลให้ชีวิตประจำวันเปลี่ยนไปมาก กลายเป็นวิตกกังวล ไม่มีสมาธิ เดิมเป็นคนชอบเล่นกีฬา จึงจำเป็นต้องเลิกเล่นกีฬาทุกประเภท เหมือนที่หมอบอก สมองหาห้องน้ำตลอดเวลา ตอนแรกเราไม่รู้ว่าเราเป็นโรคอะไรและไม่รู้ว่าจะอยู่อย่างไรโดยปราศจากมัน แต่ตอนนี้เราสามารถเรียนรู้ที่จะอยู่กับโรคได้ เพราะสิ่งสำคัญที่สุดในการต่อสู้ ในการต่อต้านโรคนี้คือกำลังใจและความเข้าใจของสมาชิกในครอบครัว

การป้องกันโรคลำไส้อักเสบ

เพราะไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด ทำให้ยากต่อการป้องกัน IBD แต่สามารถควบคุมได้ เพื่อรักษาโรคได้ดีขึ้นรวมทั้งลดความรุนแรงของอาการและลดโอกาสของการกำเริบโดยมักใช้ยาเป็นหลักในการรักษา เพื่อให้เยื่อบุลำไส้กลับสู่สภาพปกติจนไม่มีอาการผิดปกติอีกต่อไป แต่เนื่องจากโรคนี้ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้แม้จะหยุดยาไปแล้วก็ตาม แต่คนไข้ยังต้องอยู่ต่อ อยู่ในความดูแลของแพทย์และติดตามอาการเป็นระยะๆ เพื่อว่าหากโรคเริ่มกำเริบจะสามารถรักษาอาการได้ทันท่วงที

ศาสตราจารย์ นพ.รณชัย คงสกล นายกสมาคมการแพทย์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวว่า สมาคมการแพทย์ฯ ได้จัดโครงการ “ผ่อนคลายใกล้ชิดการแพทย์” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการรวมตัวของผู้ป่วยโรคต่างๆ – คุณภาพชีวิตระยะยาวทั้งสำหรับผู้ป่วย ครอบครัว สังคม และเศรษฐกิจ ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับโรคจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่ให้คำปรึกษาสำหรับโครงการร่วมกับกลุ่มผู้ป่วยที่นำกิจกรรมกลุ่ม เป็นกลุ่มสนับสนุนผู้ป่วยแบ่งปันความรู้และประสบการณ์ . ระหว่างแพทย์ ที่ปรึกษา ผู้ป่วย และญาติของผู้ป่วย เพื่อให้เข้าใจถึงขั้นตอนการดูแลและรักษา ซึ่งประสบความสำเร็จมาแล้ว 7 โครงการ มี 7 กลุ่มโรค โดยโรคลำไส้อักเสบ (IBD) เป็นกลุ่มที่ 8 ภายใต้โครงการ “ผ่อนคลายเมื่อ ใกล้สมาคมการแพทย์”


“โครงการกลุ่มโรคลำไส้อักเสบเรื้อรัง “ไอบีดีมีเพื่อน…ชีวิตสุขสันต์ถ้าลำไส้ไม่อักเสบเรื้อรัง” เป็นอีกโครงการหนึ่งที่สมาคมการแพทย์การแพทย์ร่วมกับสมาคมโรคลำไส้เล็กและลำไส้ใหญ่ สมาคมโรคระบบทางเดินอาหาร ส่งเสริมความรู้เกี่ยวกับโรคลำไส้อักเสบโดยเริ่มจากสาเหตุของโรค อาการของโรค กระบวนการวินิจฉัยและการรักษา แนวทางการดูแลตนเองของผู้ป่วยและครอบครัว เพื่อให้ผู้ป่วยและครอบครัวสามารถปรับสภาพให้สามารถดำเนินชีวิตได้ตามปกติ” ศ.ดร.นพ. กล่าว รณชัย.

รองศาสตราจารย์ ดร.สถาพร กล่าวเสริมว่า “ทางกลุ่มได้ทำเว็บไซต์ www.ibdthai.com เพื่อเป็นช่องทางในการเข้าถึงและรู้โรคได้อย่างรวดเร็ว และเข้าใจง่ายด้วยข้อมูลที่ถูกต้องและเชื่อถือได้จากบุคลากรทางการแพทย์ เริ่มเปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 15 มกราคม ปีนี้ นอกจากผู้ป่วยและครอบครัวที่สามารถมาค้นพบวิธีการดูแลโรคที่ถูกต้องแล้ว รวมถึงการแลกเปลี่ยนความรู้จากประสบการณ์ของผู้ป่วยและผู้ดูแลผู้ป่วย”

ประชาชนทั่วไปโดยเฉพาะผู้ต้องสงสัยว่าเป็นโรคนี้ประสบกับโรคและการประเมินตนเอง ในเบื้องต้นบนเว็บไซต์นี้ เพื่อที่ว่าหากพบความผิดปกติใดๆ จะสามารถตรวจพบและรักษาความผิดปกติได้อย่างรวดเร็วก่อนที่จะกลายเป็นโรคเรื้อรังหรือหากมี ยังคงมีโอกาสกลับมาเป็นปกติได้เร็วยิ่งขึ้นหากได้รับการรักษาแต่เนิ่นๆ

#อยาชะลาใจ #ปวดทองบอยๆ #ทองเสยประจำ #ถายมเลอด #เสยง #โรคลำไสอกเสบเรอรง

0/5 (0 Reviews)

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น