ระวัง “โยโย่เอฟเฟค” ของการงดเว้นจากการรับประทานอาหารที่ไม่เหมาะสม

อ่าน 9,708

3 วิธียอดฮิตของใครหลายคนที่อยากผอม หนีแป้ง ไขมัน และอาหารเย็นไม่ได้ ดูเหมือนจะเป็นวิธีที่ดี และทุกคนแนะนำให้ทำ แต่เชื่อหรือไม่ว่าหลายคนทำตามวิธีนี้ นอกจากนี้น้ำหนักจะไม่ลดลงอย่างที่เขาหวัง ยังเพิ่มน้ำหนักก่อนพยายามลดน้ำหนักได้อีก หรือที่เรียกว่า “โยโย่เอฟเฟค”

อันที่จริงวิธีการ 3 อันดับแรกถูกกล่าวถึงข้างต้น นี่ไม่ใช่วิธีที่ถูกต้องในการลดน้ำหนัก ทำไม ? ลองมาดูกัน


1. ไม่มีแป้ง

บางคนงดแป้งโดยสิ้นเชิง จนต้องตัดอาหารเหล่านี้ออกจากร่างกายทุกมื้อ ผักทุกชนิดไม่ทอดกระเทียม ส้มตำ หรือสลัดผักล้วนทุกวัน กินแบบนี้ไปเรื่อยๆ จะทำให้ร่างกายเริ่มรู้สึกว่าขาดสารอาหาร และบังคับให้ร่างกายต้องการหาของหวานกินทันทีเพราะร่างกายกลัวสารอาหารไม่เพียงพอ นั่นเป็นเหตุผลที่คนจำนวนมากข้ามแป้งไปชั่วขณะหนึ่ง ความอยากอาหารหวาน ของหวาน น้ำจืด ในอารมณ์หวิวๆ จนเผลอกินเกินที่ร่างกายต้องการ พลังงานที่เหลือจะสะสมอยู่ที่ท้อง ก้น และต้นขา

เหตุผลที่ร่างกายเลือกกินน้ำตาล ในช่วงเวลาที่ร่างกายคิดว่ามันขาดแป้งตัวนี้ เพราะน้ำตาลสามารถให้พลังงานแก่ร่างกายได้อย่างรวดเร็ว ร่างกายดูดซึมได้ค่อนข้างเร็ว แต่เพราะดูดซึมได้เร็ว ถ้ากินเยอะจะไม่สามารถใช้พลังงานที่สามารถใช้ได้ พลังงานที่เหลือจะถูกสะสม แต่อีกสักพักเราจะหิวอีกครั้ง เพราะพลังงานที่เหลือสะสมอยู่ในชั้นไขมันหนาๆ เป็นของเรา

วิธีลดน้ำหนักอย่างถูกวิธี ไม่ใช่งดแป้ง แต่ให้ลดการบริโภคแป้งขัดมัน แป้งขาวที่ผ่านกรรมวิธี ข้าวขาวไล่ น้ำตาลทรายขาว ขนมปังขาว น้ำน้ำตาล น้ำเชื่อม ผลไม้สุดหวาน ของหวานต่างๆ กะทิ เบเกอรี่ต่างๆ เช่น เค้ก โดนัท ครัวซองต์ ไส้กรอกม้วน ฯลฯ การเลือกกินแป้งไม่ขัดสี เช่น ข้าวกล้อง ข้าวเปลือก , ขนมปังโฮลวีต น้ำตาลทรายไม่ขัดสี น้ำผึ้ง เผือก มัน ฯลฯ


2. งดไขมัน

นี่เป็นอีกหนึ่งสารอาหารที่เชื่อกันว่าเป็นแหล่งของไขมันส่วนเกินในร่างกายทั้งหมด ทั้งๆ ที่บางคนไม่ชอบกินอาหารที่มีไขมันสูง จะมันเยิ้มได้เพราะแป้ง และก็น้ำตาล มันไม่อ้วนเลย แต่ถึงกระนั้น ไขมันก็เป็นสาเหตุของไขมันส่วนเกินในร่างกายเช่นกัน ยังเป็นสาเหตุของโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ ในร่างกายด้วย ไม่ว่าจะเป็นหลอดเลือดหัวใจตีบ โรคไขมันพอกตับ เป็นต้น

แป้งก็เหมือนกัน วิธีลดน้ำหนักที่ถูกต้องคือไม่งดเว้นและลดไขมันที่ไม่ดีต่อร่างกาย พวกนี้เป็นไขมันทรานส์ ไขมันทรานส์ ได้แก่ เนย มาการีน มาการีน น้ำมันหมู ซึ่งใช้ทอดซ้ำ และไขมันสัตว์ (ไขมันสัตว์จะกลายเป็นไขมันทรานส์หากทอดเป็นเวลานาน)

ไขมันที่ควรทาน เพราะดีต่อสุขภาพโดยเฉพาะน้ำมันมะกอก น้ำมันรำข้าว น้ำมันดอกทานตะวัน (ใช้ในกรณีของอาหารที่ผัดเร็วในปริมาณน้อย) รวมทั้งไขมันที่ได้จากน้ำมันปลา เป็นต้น

3. งดอาหารเย็น

แม้ว่าในตอนเย็นหลายๆ ค่ำ ผู้คนจะบอกว่าใช้พลังงานน้อยกว่าช่วงเวลาอื่นๆ ของวัน คุณจึงกินไม่ได้ แต่อย่าลืมว่าถ้าจะงดอาหารเย็นหรือกฎของคนอื่น (ผิด) ห้ามกินอะไรหลัง 18.00 น. คือถึงเช้า ท้องเราจะว่างโดยไม่มีอะไรย่อยถึงเช้าวันรุ่งขึ้นถึง 12-14 รวมชั่วโมง. รับรองเราต้องมีผิวคล้ำเสีย ไม่ได้ผลแน่นอน

ดังนั้นการงดอาหารเย็นจึงไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาที่ถูกต้อง กล่าวอีกนัยหนึ่ง ร่างกายคิดว่าเรากำลังจะเข้าสู่ภาวะขาดสารอาหาร หรือความอดอยากเมื่อเข้าสู่ช่วงมื้ออาหาร เราจะหิวมากกว่าปกติ เพราะร่างกายต้องการพลังงานสะสมในร่างกายมากขึ้น ใครทนไม่ไหวก็กินเยอะโดยไม่ได้ตั้งใจ ใครทนได้ก็ต้องทนจนกว่าน้ำหนักจะค่อยๆลดลง แต่สักพักเราก็พอใจกับน้ำหนักแล้วหันมากินเหมือนเดิม น้ำหนักขึ้นเพราะหมดช่วงกักเก็บพลังงาน


วิธีลดน้ำหนักที่ถูกต้องคือการกินอาหารมื้อเล็กๆ หลายๆ มื้อ ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็น 4 หรือ 6 มื้อ อย่าปล่อยให้ร่างกายขาดสารอาหารจนกว่าคุณจะหิว ทำให้ร่างกายรู้สึกอิ่มตลอดเวลา ไม่หิว ทำให้อยากอาหารลดลง โดยเฉพาะความอยากทานน้ำตาลและของหวานก็จะลดลงด้วย

ฉันหวังว่าเพื่อน ๆ ฉันจะควบคุมอาหารได้อย่างถูกต้อง อย่าลืมควบคุมอาหารของคุณ ต้องควบคู่ไปกับการออกกำลังกาย เป็นวิธีการลดน้ำหนักที่ได้ผลและถาวร

#ระวง #โยโยเอฟเฟกต #จากการงดอาหารทไมถกวธ

0/5 (0 Reviews)

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น