อันตรายจาก “แดดแรง” ต่อร่างกาย ในแบบที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน

อ่าน 11,760

ในขณะเดียวกันอุณหภูมิในบ้านเราก็ไม่ลดลงเลย นอกจากจะทำให้ร่างกายเหนียวเหนอะหนะตั้งแต่ก้าวแรกออกจากห้องแอร์แล้ว ยังสร้างปัญหาให้เราอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นกลิ่นตัว ผิวคล้ำ เสียบุคลิก แต่นอกจากปัญหาเหล่านี้แล้ว ยังมีอันตรายต่อร่างกายที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน

อันตรายจาก “แดดแรง” ที่เป็นมากกว่า “ผิวดำคล้ำ”


แสบ แสบ ผิวลอก

ยิ่งระดับรังสียูวีในดวงอาทิตย์สูง ความเข้มก็จะยิ่งสูงขึ้น มันสามารถทำให้ผิวไหม้ แดง แสบ สะเก็ด ซึ่งเราเรียกว่าผิวไหม้แดด ซึ่งผิวจะแดง คัน เป็นสะเก็ด

ฝ้า กระ จุดด่างดำ ริ้วรอย


การวิจัยพบว่าแสงแดดเป็นสาเหตุหลักของการทำลายผิว หากไม่ทาครีมกันแดด อาจเสี่ยงต่อการเกิดฝ้า กระ จุดด่างดำ รวมทั้งริ้วรอย ชัดเจนกว่าคนทาครีมกันแดด

มะเร็งผิวหนัง

ถึงแม้จะดีที่คนไทยมีผิวคล้ำกว่าผิวยุโรป ไวต่อแสงแดดมากขึ้น ดังนั้นความเสี่ยงของมะเร็งผิวหนังจึงลดลง แต่ถึงกระนั้น ดร.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า หากผิวของเราโดนแสงแดดมากเกินไปเป็นเวลาเพียง 15 นาที รังสียูวีสามารถทำลายระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายได้ และสามารถทำให้เกิดมะเร็งผิวหนัง ในประเทศไทยมีผู้ป่วยมะเร็งผิวหนัง 300 ถึง 400 รายต่อปี

ต้อเนื้อต้อเนื้อ

ข้อมูลจากโรงพยาบาลตารัตนินกล่าวว่าแสงแดดที่มีรังสี UV เข้มข้น อาจเป็นอันตรายต่อดวงตาด้วย ดวงตาต้องสัมผัสกับแสงแดดที่มีรังสี UV สูงเป็นเวลาหลายปี เซลล์เยื่อบุลูกตาผลิตโปรตีน และอ้วนกว่าปกติจนเกิดเป็นก้อนหนาบนเยื่อบุตาข้างกระจกตาดำ และเนื่องจากประเทศไทยเป็นประเทศที่มีแดดจัดตลอดทั้งปี เราจึงพบผู้ป่วยที่เป็นต้อกระจก ต้อเนื้อบ่อยมาก

ลมแดด


อันตรายอีกอย่างที่อาจถึงตายได้ เป็นลมแดด เป็นอาการบาดเจ็บเนื่องจากร่างกายร้อนจัด จนร่างกายไม่สามารถขับความร้อนออกได้อีกต่อไปจนทำให้เกิดความร้อนสะสมในร่างกาย ความร้อนได้มาจากทั้งความร้อนของแสงแดดภายนอก ร่วมกับความร้อนภายในที่ร่างกายสร้างขึ้นเมื่อรวมกับภาวะขาดน้ำซึ่งมักจะตามมาด้วย ซึ่งจะนำไปสู่ความเสี่ยงที่จะเป็นลม หกล้ม เป็นลม และอาจถึงขั้นช็อกและเสียชีวิตได้

ดังนั้นนอกจากการพยายามหลีกเลี่ยงแสงแดดเป็นเวลานานแล้ว รวมทั้งหลีกเลี่ยงการอยู่ในพื้นที่แออัด สภาพอากาศไม่มีการระบายอากาศเกิน 30 นาที และต้องทาครีมกันแดดก่อนออกทุกครั้ง เลือกค่า SPF ที่มากกว่าหรือเท่ากับ 15 ซึ่งเป็นค่า PA ที่มีเครื่องหมายบวก เช่น PA+++ ยิ่งค่าบวกสูงเท่าใด การปกป้องผิวจากรังสี UVA ก็ยิ่งมีประสิทธิภาพมากขึ้นเท่านั้น ควรทาครีมกันแดดก่อนออกแดด 20 นาที และทาซ้ำทุก 2 ชั่วโมง หรือทาซ้ำหลังจากว่ายน้ำหรือเล่นกีฬา เนื่องจากน้ำและเหงื่อสามารถละลายครีมกันแดดได้ การสวมเสื้อแขนยาว กางเกงขายาว หมวกปีกกว้าง และแว่นกันแดดสามารถช่วยปกป้องผิวจากแสงแดดได้ แต่เลือกผ้าที่ระบายความร้อนได้ดี เช่น ผ้าฝ้าย เพื่อให้ร่างกายเย็นลงได้ดีขึ้น สุดท้ายดื่มน้ำปริมาณมาก เพื่อป้องกันภาวะขาดน้ำ

#อนตรายจาก #แดดแรง #ตอรางกายในแบบทคณอาจไมเคยทราบมากอน

0/5 (0 Reviews)

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น